ก่อนจะมาเป็น TIKTOK

ก่อนจะมาเป็น TIKTOK   แน่นอนว่าแพลตฟอร์มที่เรียกได้ว่ามาแรงที่สุดในปัจจุบันคงหนีไม่พ้น TIKTOK แต่รู้ไหมว่าก่อนหน้าที่จะมีไอ้เจ้านี่ แต่เดิมเคยมีแพลตฟอร์มที่คล้ายแบบนี้มาก่อนแล้ว เมื่อแปดปีก่อน แต่ทุกวันนี้ก็ถูกปิดตัวไปแล้ว ซึ่งแพลตฟอร์มนี้มีอยู่ว่า VINE

โดยผู้ก่อตั้งมีอยุ่ด้วยกัน 3   คน คือ Dom Hofmann, Rus Yusupov และ Colin Kroll โดยแพลตฟอรม์ดังกล่าวนี้ มีฟีเจอร์ให้ผู้ใช้งานทำคลิปวิดีโอสั้นได้ 6 วินาท เป็นการวนลูป ซึ่งในแพลตฟอร์มก็จะมีการแบ่งหมวดหมู่คลิป ตามประเภทคอนเทนต์และความนิยมในแต่ละช่วงเวลา

            ซึ่งแนวคิดนี้ก็ไปเข้าตา Twitter ซึ่งก็มีการตัดสินใจขอเข้าซื้อกิจการด้วยมูลค่าประมาณ 980 ล้านบาท ซึ่งเมื่อมีพี่ใหญหนุนหลังแบบนี้ทำให้แพลตฟอร์มนี้ ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วและมีผู้ใช้งาน ภายสามปี มากกว่า 200 ล้านบัญชี แต่อย่างไรก็ตามแพลตฟอร์มนี้กลับคงทนอยู่ได้เพียงแค่ 4 ปี

เนื่องจากบริษัทแม่อย่าง Twitter เกิดปัญหาขาดทุน และในช่วงนั้นก็เริ่มมีแพลตฟอรม์ใหม่ๆ อย่าง TIKTOK เริ่มขึ้นมา จึงทำให้ VINE ต้องปิดตัวเองอย่างถาวร และอะไรที่เป็นสาเหตุให้แพลตฟอร์มนี้ต้องหยุดกระทันกัน เราลองมาหาสาเหตุกันดู

              อย่างแรกเลย วิดีโอ 6   วินาที นั้นเป็นจุดอ่อน เพราะมันสั้นและน้อยเกินไปที่จะให้ผู้ใช้งานได้ใส่ลูกเล่นเพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์ดีๆออกมาก ซึ่งถึงแม้ว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไข แต่ต้องเกือบสามปี ที่ VINE จะปรับเพิ่มจาก 6 วินาที กลายมาเป็น 140 วินาที ซึ่งถือว่าช้าเกินไปสำหรับชาวโซเชียลทั้งหลาย

         อย่างที่สองคือ รายได้หรือผลตอบแทน ซึ่งแพลตฟอร์มนี้ไม่ได้มีรายได้หรือผลตอบแทนใดๆ ให้กับผู้ใช้งานในการสร้างคอนเทนต์มาแชร์กันบนแพลตฟอร์ม มันจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายๆ คนเปลี่ยนไปทำ content ที่แพลตฟอร์มอื่นแทน

อย่างที่สาม การที่ยักษ์ใหญ่อย่าง Twitter เข้ามาซื้อกิจการเร็วเกินไป ทำให้ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการพัฒนาแอปนั้นต้องสะดุด เนื่องจากทีมงานขาดความคล่องตัวในการตัดสินใจ ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับบริษัทที่เพิ่งเริ่มต้น ผลิตหรือพัฒนาอะไรใหม่ๆ และอย่างสุดท้ายก็คือ

        การเปิดตัวของ TikTok ที่ทำได้ดีกว่า จนทำให้ผู้ใช้งานเลิกใช้งานแพลตฟอร์ม VINE และหันไปใช้งานแพลตฟอร์มอย่าง TikTok แทน นั่นจึงกลายเป็นจุดจบของแพลตฟอร์มนี้ ที่เรียกได้ว่าครั้งหนึ่งเคยสร้างความฮืออา และผลิตฟีเจอร์ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง

แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลอันใดก็ตาม เรื่องนี้จึงกลายเป็นอุทาหรณ์ให้บริษัทต่างๆ ไม่คิดที่จะหยุดนิ่งในการพัฒนาอะไรใหม่ๆ ให้สิ่งเก่าที่มีอยู่ดีขึ้นกว่าเดิม รวมไปการสร้างสิ่งใหม่ๆ เพื่อให้ทันกระแสต่อโลกปัจจุบันนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.   สมัคร sbobet โดยตรง