ทางลัดใหม่ สแปค หุ้นเศรษฐีเทคอาเซียน

โดย สแปค ถือได้ว่าเป็นทางลัดสำหรับผู้ประกอบการที่อยากจะนำเอากิจการของตัวเองเข้าไปในของตลาดหลักทรัพย์รวมถึงยังเป็นทางเลือกของนักลงทุนอีกด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือรายย่องให้ลงทุนในหุ้นยอดตลาดหลักทรัพย์ได้คนธรรมดา

โดยปกติแล้วจากเดิมจะลงทุนในสตาร์ทอัพเหล่านี้ได้มักจะถูกจำกัดแวดวงนักลงทุนมืออาชีพหรือมหาเศรษฐีที่พร้อมจะรับความเสี่ยงสูง

แต่ว่าสแปคนี้จะช่วยปลดล็อคครั้งใหญ่เลยเพราะว่าจะทำให้นักลงทุนตัวเล็กสามารถที่จะลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้โดยที่ไม่ต้องรอสตาร์ทอัพเหล่านี้เข้า IPO ล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ของสิงค์โปรได้เปิดซื้อขายหุ้นสแปคแล้วโดยเว็บไซต์หนึ่งรายงานว่ามีกิจการแบบ สแปค เกิดขึ้นแล้วทั้งหมด 379 บริษัททั่วโลก

ซึ่งอยู่ในสหรัฐอเมริกาถึง 358 บริษัทและในขณะนี้เองก็กำลังที่จะมีธุรกิจและหุ้นประเภทสแปคเพิ่มมากขึ้นในประเทศสิงค์โปรอีกโดยตลาดหลักทรัพย์ของสิงค์โปรก็นับได้ว่าเป็นตลาดหลักทรัพย์แรกในเอเชียเลยที่เปิดให้บริษัทสแปคสามารถเข้าไปซื้อขายในตลาดได้ก็พึ่งจะสดๆร้อนๆเลยเปิดให้เข้ามาได้เมื่อต้นเดือนกันยายน64นี้เอง

นับได้ว่าเป็นครั้งแรกที่เปิดโอกาสให้กับบริษัทประเภทเทคโนโลยีด้วยในรูปแบบของการเข้าถึงตลาดรูปแบบใหม่อีกด้วยสำหรับด้านกฎเกณฑ์ของการระดมทุนสำหรับสิงค์โปรหนึ่งก็คือมูลค่าตามตลาดหรือว่า Market Capจะอยู่ที่ 3,700ล้านบาท

ดังนั้นยังไม่เพียงเท่านี้การระดมทุนกำหนดเอาไว้จะต้องหาสตาร์ทอัพที่ที่น่าสนจให้ได้ภายใน 24 เดือนห้ามเกินไปจากนี้และราคาหุ้น IPO ขั้นต่ำกำหนดเอาไว้อยู่ที่ 120 บาทสุดท้านจะต้องมีผู้มาเข้าร่วมซื้อหุ้นไม่ต่ำกว่า 300 รายด้วยมาดูทางฝั่งของอินโดนีเชียกันบ้างก็เปิดตลาดรับสแปคแล้วเช่นเดียวกัน

โดยที่อินโดนีเชียนี้น่าสนใจไม่น้อยเหมือนกันเพราะว่าประเทศของเขามีสตาร์ทอัพที่มีระดับก็คือมูลค่าตลาดมากกว่า1พันล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไปและก็มากกว่า1หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไปจำนวนมากเลยทีเดียวและตอนนี้ก็มีหลายบริษัทสตาร์ทอัพสนใจจะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ด้วยรูปแบของสแปคแบบนี้

ซึ่งหากว่าได้เข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วเรียกได้ว่ามูลค่าจะเพิ่มได้มากขึ้น1.3ล้านล้านบาทเลยทีเดียวอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั้นแสดงให้เห็นถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเราไม่ธรรมดาจริงๆมีรายงานจาก CNBC ว่าภูมิภาคของเรามีโอกาสที่จะเกิดบริษัทประเภทสแปคไม่ต่ำกว่า 40 ราย

โดยนักลงทุนรายใหญ่และสถาบันการเงินขั้นนำของโลกก็เล็งเป้ามาที่อาเชียเลยเพราะว่าเป็นตลาดที่สามารถทำกำไรได้เป็นอย่างดีในกลุ่มสตาร์ทอัพเพียง 3 เดือนแรกปี 64 แค่ไตรมาสเดียวสามารถระดมทุนได้ถึง 6,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.   สมัคร บาคาร่า ufabet