เยอรมนี พบปัญหาเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

     เยอรมนี พบปัญหาเงินเฟ้อ   หากพูดถึงเรื่องของปัญหาเงินเฟ้อแล้วช่วงนี้ในหลายประเทศกำลังต้องเผชิญกับปัญหาเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อกันอย่างต่อเนื่องโดยมีการนำข้อมูลสถิติปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจเรื่องของเงินเฟ้อในช่วง ปีพ.ศ. 2564

มาทำการพิจารณาดูจะเห็นได้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นเกือบทุกประเทศไม่ต้องเผชิญกับปัญหาเกี่ยวกับค่าครองชีพหรือเงินเฟ้อต่างๆเลยปัญหาเรื่องของเงินเฟ้อหรือปัญหาเรื่องของค่าครองชีพปัญหาเศรษฐกิจต่างๆนั้นเรียกได้ว่าได้รับการดูแลจากผู้นำประเทศของแต่ละประเทศเป็นอย่างดีจนมาถึงยุคที่มีการระบาดของไวรัส covid นี้เองที่ทำให้เศรษฐกิจมีปัญหาแล้วเกิดปัญหาเงินเฟ้อตามมา

          ล่าสุดทางด้านประเทศเยอรมนีก็ออกมาพูดถึงปัญหาเงินเฟ้อในประเทศของตนเองว่าจากการดูข้อมูลประวัติเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อย้อนหลังในหลายปีที่ผ่านมาเรียกได้ว่าปีนี้เยอรมนีประสบปัญหาอย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องของเงินเฟ้อซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นสูงแบบนี้มาก่อน

แน่นอนว่าสิ่งที่ทางรัฐบาลของประเทศเยอรมนีจำเป็นที่จะต้องแก้ไขเพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน นั่นก็คือการที่รัฐบาลจำเป็นที่จะต้องปรับค่าแรงขั้นต่ำให้กับประชาชนในประเทศของตัวเอง 

         ทางรัฐบาลของประเทศเยอรมันระบุว่านับตั้งแต่ปีค.ศ 1993 จนมาถึงปัจจุบันนี้เยอรมันพบกับภาวะเงินเฟ้อในปีนี้หนี้สูงที่สุดเพราะยอดเงินที่สูงขึ้นมานั้นมียอดเงินเฟ้อสูงถึง 5.3 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวอย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ทางด้านเศรษฐกิจและวิเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องของปัญหาเงินเฟ้อภายในประเทศเยอรมันนั้นยังคงระบุว่าการแก้ปัญหาเงินเฟ้อนั้นยังคงต้องแก้ไขปัญหาอีกยาว

            แน่นอนว่าการเพิ่มค่าครองชีพให้กับประชาชนนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดปัญหาเงินเฟ้อได้ซึ่งเมื่อปีที่แล้วนั้นเยอรมันมีการเพิ่มค่าครองชีพให้กับประชาชน 3 จุด 1% แต่ในขณะนี้ปัญหาเงินเฟ้อนั้นมีมากกว่า 5% เข้าไปแล้วดังนั้นการปรับในเรื่องของค่าแรงขั้นต่ำการช่วยเหลือเรื่องของค่าครองชีพให้กับประชาชนของตนเองนั้นอาจจะต้องมีการปรับเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 5% 

           ซึ่งในขณะนี้ยังต้องรอดูสถานการณ์ว่าทางรัฐบาลจะมีการประชุมกันเกี่ยวกับเรื่องของค่าแรงขั้นต่ำว่าจะต้องมีการปรับขึ้นอย่างไรหรือประมาณเท่าไหร่ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าค่าแรงที่ทางรัฐบาลจะมีการปรับให้กับประชาชนของเยอรมันนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 12 ยูโรหรือถ้าหากคำนวณเป็นจำนวนเงินบาทแล้ว

ก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 448 บาทต่อชั่วโมงซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบค่าแรงขั้นต่ำของต่างประเทศกับของไทยแล้ว ต่างประเทศทำงานเพียงแค่ชั่วโมงเดียวแต่ของประเทศไทยนั้นเท่ากับทำงาน 1 วันครึ่งเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย.    ufabet