เงินกู้โควิด 5แสนล้าน ใช้เกือบหมดแล้ว ส่วนใหญ่เบิกจ่ายลงเศรษฐกิจ 

       เนื่องจากประเทศไทยมีปัญหาด้านเศรษฐกิจมายาวนานอยู่หลายปีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจที่ซบเซาในช่วงของการระบาดของไวรัสโควิตเมื่อช่วงประมาณ 3 ปีที่ผ่านมาส่งผลให้เงินในกระทรวงการคลังนั้นลดลงเรื่อยๆดังนั้นทางด้านรัฐบาลจึงได้มีการทำการกู้ยืมเงินจากประเทศญี่ปุ่นมาไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉินโดยเรียกเงินดังกล่าวว่าเงินกู้โควิดซึ่งมีการกู้มาจำนวนทั้งสิ้น 5 แสนล้านบาท   

        

          ล่าสุดมีการเปิดเผยออกมาจากทางกระทรวงการคลังว่าปัจจุบันเงินกู้ที่มีการกู้มาใช้ในการแก้ไขปัญหาเรื่องของโควิตนั้นมีเงินเหลืออยู่ที่ประมาณเพียงแค่ 37,000 ล้านบาทเพียงเท่านั้น

ซึ่งเงินดังกล่าวนั้นก็มีการเสนอของบประมาณเอาไปใช้จ่ายทำให้สถานการณ์โดยรวมจริงๆแล้วเงินจำนวน 5 แสนล้านบาทที่ทางกระทรวงการคลังกู้มาเพื่อใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินมีการใช้เงินที่กู้ท่่กู้มากเต็มวงเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

         อย่างไรก็ตามทางด้านกระทรวงการคลังได้มีการชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องของเงิน 5แสนล้านบาทว่ามีการนำไปช่วยเหลือเรื่องของค่ารักษาพยาบาลเกี่ยวกับไวรัสโควิคประมาณ 20,000 ล้านบาท     ในขณะเดียวกันก็ต้องนำเงินส่วนหนึ่งจากเงินกู้ทั้งหมดนั้นไปเป็นค่าตอบแทนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่เข้ามาดูแลรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิช- ซึ่งก็ได้แก่พยาบาลและคณะแพทย์ต่างๆ  ufabet   โดยงบประมาณดังกล่าวนั้นมีการเบิกจ่ายไปอยู่ที่ประมาณหมื่นล้านบาทนั้นเอง 

        นอกจากนี้ยังมีหลายหน่วยงานที่มีการส่งเรื่องเข้ามาทำการขอวงเงิน    สำหรับเอาไปเบิกจ่ายซึ่งทางด้านคณะรัฐมนตรีเองก็ต้องมีการพิจารณากลั่นกรองเกี่ยวกับวงเงินที่มีการเสนอเข้ามาขอไปใช้จ่ายโดยพยายามที่จะให้เบิกจ่ายตามการใช้งานจริงและเป็นกรณีเร่งด่วนนอกจากนี้ยังมีการแยกเงินสำรองเอาไว้บางส่วนเพื่อใช้ในปี 2566 และเอาไว้ใช้จ่ายกรณีฉุกเฉินนั่นเอง 

           อย่างไรก็ตามทางด้านกระทรวงการคลังออกมายืนยันว่าเงินกู้ พ.ร.ก. ที่มีการขอกู้ออกมาจำนวน 5แสนล้านบาทนั้นจากการที่มีการอนุมัติให้นำไปใช้จ่ายบางส่วนและมีการจองสำรองเอาไว้กับหน่วยงาน

แต่ละหน่วยงานเพื่อเอาไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉินนั้นสถานการณ์โดยรวมตอนนี้เงินไม่เหลือแล้วมีการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว  ซึ่งหน่วยงานบางหน่วยงานก็ได้มีการมาเบิกเงินแล้วส่วนบางหน่วยงานที่มีการขออนุมัติเอาไว้และได้รับการอนุมัติแต่ยังไม่มีการมาเบิกจ่ายทางด้านกระทรวงการคลังก็จะมีการเร่งติดตามให้มาทำการเบิกเงินเพื่อเอาไปแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคม ปีพ.ศ. 2565 นี้ 

              อย่างไรก็ตามทางด้านกระทรวงการคลังยืนยันว่าเงินกู้ 5 แสนล้านบาทที่รัฐบาลได้มีการกู้เงินนั้นนำมาขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจซึ่งประชาชนสามารถตรวจสอบได้ว่าในช่วงประมาณ 4 เดือนสุดท้ายภาพโดยรวมของเศรษฐกิจของไทยจะต้องดีขึ้นเนื่องจากว่าได้รับเงินที่ทางรัฐบาลอนุมัตินำไปใช้จ่ายในการกระตุ้นแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจทำให้ภาพเศรษฐกิจโดยรวมของไทยค่อนข้างดีขึ้นตามลำดับนั่นเอง