คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวกระทบเศรษฐกิจ

วิกฤตโควิด-19 ระบบแบงก์ ยังทำงานได้ดีแต่ยังไม่พอ

ตั้งแต่วิกฤตโควิด 19 ส่งผลกระทบมาตั้งแต่ปี2563 และเข้าสู่ปีที่ 2  ในปี2564หนึ่งในกลไกที่สำคัญเศรษฐกิจนั้นยังคงเดินหน้าต่อไปได้คือกลไกของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งล่าสุดเราได้มีความเห็นของท่านผู้ว่าแบงก์ชาติธนาคารแห่งประเทศไทยว่าตอนนี้ทางฝั่งของธนาคารพาณิชย์มีความแข็งแรงและมีความทนทานต้องการแก้ไขปัญหานี้มากน้อยแค่ไหน

โดยไทยเป็นประเทศพึ่งพาระบบธนาคารพาณิชย์ค่อนข้างสูงเห็นได้จากตัวเลขสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ อยู่ที่ 14 ล้านล้านบาท เทียบกับสินเชื่อที่มาจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่ 5 ล้านล้านบาท คิดเป็นเพียง 1 ใน 3 ของระบบธนาคารพาณิชย์เท่านั้น และแม้ช่วงหลังภาคเอกชนจะระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้เพิ่มมากขึ้น 

แต่ยอดคงค้างตราสารหนี้ภาคเอกชนอยู่เพียง 3 ล้านล้านบาทสะท้อนให้เห็นว่าเครื่องยนต์สำคัญที่จะหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจและระบบการเงินคงหนีไม่พ้นธนาคารพาณิชย์ ซึ่งในภาวะวิกฤตโควิด 19 ที่มีความเสี่ยงสูงและเศรษฐกิจหดตัวรุนแรงโอกาสที่ทางธนาคารพาณิชย์จะหุบร่มหรือปล่อยสินเชื่อก็มีสูง

ดังนั้นเพื่อไม่ให้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ลุกลามและรุนแรงกว่าเดิมหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ ทปท. คือทำให้ระบบธนาคารพาณิชย์ทำงานได้อย่างต่อเนื่องใกล้เคียงกับภาวะปกติ 

เพราะธนาคารพาณิชย์มีบทบาทสำคัญในการปล่อยสินเชื่อแก่ธุรกิจและตั้งแต่วิกฤตโควิด 19 ตั้งแต่ระลอกแรกจนถึงวันนี้เกือบ 2 ปีที่ผ่านมาระบบธนาคารพาณิชย์ทำงานได้ดีแค่ไหนในมุมมองของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ดร. เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ให้ความเห็นว่าระบบธนาคารพาณิชย์ยังคงทำงานได้ดีระดับหนึ่งดูได้จาก 3 เหตุผลคือ

โดย 1 สินเชื่อยังโตใกล้เคียงกลับก่อนโควิดสะท้อนกลับสินเชื่อใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2564 จากระบบธนาคารพาณิชย์ที่โตร้อยละ 4 ใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิดที่ประมาณร้อยละ 4 เช่นกัน ซึ่งการขยายตัวของสินเชื่อร้อยละ 4 นี้ คิดเป็นสินเชื่อเม็ดเงินใหม่กว่า5แสนล้านบาท 

2 สินเชื่อยังโตได้ดีแม้ภาวะวิกฤตหากเทียบกับบริบทเศรษฐกิจในอดีตจะเห็นว่าปกติสินเชื่อจะขยายตัวสูงในช่วงที่ GDP หรือเศรษฐกิจขยายตัวดีแต่สำหรับปีนี้เศรษฐกิจน่าจะโตไม่ถึงร้อยละ 1 ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ยังสามารถให้สินเชื่อใหม่ได้ที่ร้อยละ 4 จึงเป็นสัญญาณว่าระบบยังทำงานได้ดี

 3สินเชื่อของไทยยังโตได้มากกว่าประเทศในภูมิภาคแม้ไทยจะถูกผลกระทบจากโควิด 19หนักสุดและฟื้นตัวได้ช้ากว่าประเทศอื่นเห็นได้จากสินเชื่อของไทย ณ สิ้นปี 2563 ที่โตร้อยละ 4 ขณะที่อินโดนีเซีย หดตัวร้อยละ 1.7 ฟิลิปปินส์หดตัวร้อยละ 0.9 และสิงคโปร์ขยายตัวร้อยละ 1.4 มีเพียงมาเลเซียเท่านั้นที่อัตราการขยายตัวใกล้เคียงกับประเทศไทย

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.   www.ufabet.com ลิ้งเข้าระบบ

วิกฤตของประเทศเมียนมาร์ คือโอกาสทางการค้าของไทยจริงหรือ

        วิกฤตของประเทศเมียนมาร์ นับตั้งแต่ประเทศเมียนมาร์เกิดมีการประท้วงกันเกิดขึ้นมีหลายหน่วยงานมากที่ออกมาวิเคราะห์ว่าการประท้วงในพม่าในครั้งนี้แม้ว่าประเทศพม่าจะเกิดวิกฤติครั้งยิ่งใหญ่แต่กลับเป็นผลดีต่อนักธุรกิจของไทยและการส่งออกของไทยที่จะสามารถส่งสินค้าไปขายในประเทศพม่าได้เนื่องจากว่าเมื่อพม่ามีการประท้วงบริษัทต่างๆจึงต้องปิดตัวลงเพื่อให้เราพนักงานนั้นออกไปประท้วงหรือแม้แต่ถ้าทางบริษัทไม่ปิดกิจการแต่พนักงานก็จะออกไปประท้วงเอง

         ดังนั้นหลายหน่วยงานจึงมองว่านี่คือโอกาสอันดีของการค้าของไทยที่จะสามารถนำสินค้าไปขายในประเทศพม่าได้  แต่การขายสินค้าในประเทศพม่านั้นเราไม่สามารถส่งสินค้าไปขายในขณะที่คนพม่ากำลังก่อการจลาจลหรือก่อการประท้วงกันได้เพราะเชื่อถือว่าในขณะที่พวกเขาอาจจะเป็นอาหารก็จริงเราก็ไม่สามารถนำของไปขายได้ในทันทีเพราะการขายของในประเทศพม่านั้นจะต้องมีการติดต่อหน่วยงานของรัฐบาลเพื่อนำสินค้าเข้าไปขายเป็นการขออนุญาต

          ดังนั้นเราจึงไม่สามารถนำสินค้าเข้าไปขายในประเทศพม่าได้

โดยตรงยกเว้นว่าบริษัทของไทยมีการส่งสินค้าไปขายกับประเทศพม่าอยู่แล้วยังสามารถส่งไปขายได้ตามปกตินั่นเองนี่คือวิกฤตโอกาสที่ดีของพ่อค้าไทยที่จะได้ค้าขายสินค้าในปริมาณมากในประเทศเมียนมาร์ในช่วงเวลานี้แต่ถ้าหากว่าเป็นพ่อค้าชุดใหม่ที่ยังไม่เคยทำการค้าขายกับคนพม่าเลยนั้นรับรองได้ว่ายังไงคุณก็ไม่สามารถเข้าไปค้าขายได้อย่างแน่นอน

           ดังนั้นสถานที่ที่คุณจะสามารถค้าขายในประเทศพม่าได้

นั้นก็คือตรงบริเวณชายแดนนั่นเองเพราะตรงบริเวณนี้หากชาวเมียนมาร์ต้องการอยากจะซื้อสินค้าของไทยนั้นสามารถข้ามเขตชายแดนมาซื้อสินค้าแล้วนำกลับไปขายในประเทศของตนเองได้ดังนั้นโอกาสของการค้าไทยจึงมีตรงบริเวณเขตชายแดนนั่นเอง

        แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าถ้าหากใครได้ติดตามข่าวสารสถานการณ์ของประเทศพม่าในปัจจุบันนี้  และได้เห็นภาพเคลื่อนไหวใน YouTube จะเห็นได้ว่าในประเทศเมียนมาร์นี้กำลังมีความรุนแรงเป็นอย่างมากบรรดาทหารทั้งหลายนั้นเข้าไปยิงคนแม้แต่ในงานศพหรือแม้แต่ในร้านอาหารดังนั้นถ้าหากเราเป็นนักธุรกิจเราคงไม่อยากจะไปลงทุนค้าขายในประเทศพม่าในช่วงที่เกิดวิกฤตการเช่นนี้อย่างแน่นอน

           เพราะมีความเสี่ยงมากที่สถานการณ์จะรุนแรงมากขึ้นและเมื่อเช้าพม่าได้มีงานทำเพราะต้องออกมาประท้วงก็อาจจะทำให้พวกเขานั้นออกมาปล้นสดมภ์อาหารก็เป็นไปได้เช่นเดียวกันดังนั้นจากที่หลายฝ่ายมองว่ามันคือโอกาสทางการค้าของไทยนั้นถ้าหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้มันคือสถานการณ์ที่เป็นการเอื้ออำนวยโอกาสให้กับการค้าของไทยจริงหรือ?

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  ทางเข้า ufabet ภาษาไทย

GDPประเทศในอาเซียน

GDPประเทศในอาเซียน เราอยู่กับโรคระบาดโควิด-19มา10เดือนด้วยกันแต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับยังพอมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างสหรัฐอเมริกาเองก็รายงานยอดผู้เสียชีวิตทะลุ2แสนคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยเฉพาะกับภาคการท่องเที่ยวและภาคการส่งออกคำถามคือเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเป็นอย่างไรรวมไปถึงคาดการณ์ในปีหน้าและสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อผยุงเศรษฐกิจไทยไม่ให้แย่ลงไปมากกว่านี้

ซึ่งปีนี้ก็ได้พูดตรงกันว่าเศรษฐกิจไม่ดีและหวังว่าปีหน้าจะโตได้อย่างร้อนแรง

คำตอบก็คืออาจจะไม่ได้โตในลักษณะนั้นเพราะว่ามีข้อมูลจากทางศูนย์วิจัยบอกว่ามี3ปัจจัยด้วยกันที่จะฉุดรันเศรษฐกิจไทยอยู่จะเป็นอะไรตามมาดูกันนปี2563นี้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเราเจอกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19จนถึงปัจจุบันเราเจอกับมารตการในการล็อคดาวหรือว่าการปิดเมือง

การส่งออกของเราตอนนี้ตลาดในต่างประเทศก็มีปัญหาในขณะเดียวกันภาคการท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญครองสัดส่วน12%ของขนาดเศรษฐกิจหรือว่าGDPของประเทศตอนนี้ต้องหยุดวันนี้เลยจะทำภาพให้ทุกคนได้เห็นอย่างชัดเจนกับเศรษฐกิจของประเทศไทย

เพื่อที่จะได้ประเมิลกันให้เห็นภาพว่าปีนี้กับต้มยำกุ้งใครน่าจะหนักไปกว่ากันโดยคำตอบมันกค่อยข้างที่จะชัดเจนอยู่แล้วจากการคาดการณ์ของหลายสำนักเศรษฐกิจรวมไปถึงองค์กรระหว่างประเทศแม้ว่าตัวไตรมาสที่2ของประเทศไทยเราGDPจะหดตัว12.2%หดตัวไม่ได้เยอะเท่ากับช่วงที่ต้มยำกุ้งหดตัวเยอะที่สุด

นอกจากนี้โดยรวมเมื่อไหร่คำนวณออกมาทั้งปีแล้วปีนี้2563เศรษฐกิจจะหดตัวเยอะกว่าต้มยำกุ้งด้วยถ้ามาดูGDPของประเทศไทยที่เทียบกับชาติต่างๆในอาเชียเอาเทียบดูไตรมาส1กับ2 ไตรมาสที่1เริ่มจะเห็นผลจากโควิด-19ในช่วงปลายไตรมาส 

 

ไตรมาสที่2นี้คือเต็มๆและทุกส่วนภาคต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันหมด

ว่าช่วงที่ตกต่ำที่สุดช่วงที่ได้รับผลกระทบรุนแรงมากที่สุดคือไตรมาสที่2อย่างเช่นที่มาเลเซียไตรมาสที่2ติดลบถึง17% ฟิลิปปินส์ติดลบ16.5% สิงคโปร์ 13.2% ไทยติดลบ12.2แต่ถ้าเปรียบเทียบดูในไตรมาสแรกเศรษฐกิจของเราติดลบ2%แต่พอมาไตรมาสที่2ก็ติดลบหนักขึ้นไปถึง12.2%ด้วยกัน

เพราะว่าช่วงที่ควรจะเป็นที่มีนักท่องเที่ยวได้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศเยอะและนักท่องเที่ยวหลายสิบล้านคนที่เคยเข้ามาในช่วงไตรมาส1และไตรมาสที่2มันได้หายไปตรงนี้ชัดเจนและยังรวมไปถึงการบริโภคที่หดตัวลงได้อย่างชัดเจนและอีกส่วนหนึ่งคืออินโดนีเซียไตรมาสที่2เขาติดลบ5.3%เวียดนามยังขยายตัวได้0.4%

หลายท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมเวียดนามกับอินโดนีเซียติดลบอาจจะไม่เยอะเวียดนามขยายตัวได้นิดหน่อยมันต้องไปดูโครงสร้างเศรษฐกิจพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    สมัคร gclub ไม่มีขั้นต่ำ

ไทยสมายล์ กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งโดยบินระหว่างภูเก็ตฮ่องกง

        ไทยสมายล์ กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง นับตั้งแต่มีการเปิดเผยว่าประเทศไทยจะเริ่มมีการเปิดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศโดยจังหวัดที่จะเป็นจังหวัดนำร่องสำหรับการเปิดท่องเที่ยวระหว่างประเทศก่อนเป็นจังหวัดแรกนั่นก็คือจังหวัดภูเก็ตนั่นเองโดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตนั้นได้มีการนำวัคซีนป้องกันโควิตไปทำการฉีดให้กับประชาชนชาวเมืองภูเก็ตซึ่งในขณะนี้มีการฉีดไปแล้วมากกว่าสี่แสน คนของประชากรทั้งหมดในจังหวัดภูเก็ต 

         นอกจากนี้ยังมีการฉีดต่อเนื่องไปเรื่อยๆโดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

จะต้องมีการให้ประชาชนในจังหวัดภูเก็ตนั้นฉีดให้ครบทุกคนก่อนที่จะมีการเปิดให้มีการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเกิดขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนชาวเมืองภูเก็ตว่าจะสามารถช่วยป้องกันการระบาดของไวรัสโควิตได้นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเดินทางมาเที่ยวที่ภูเก็ตว่าพวกเขาจะได้ปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัสโควิคจากการมาเที่ยวที่เมืองไทยนั่นเอง

        อย่างไรก็ตามในขณะที่ จังหวัดภูเก็ตกำลังพยายามเตรียมความพร้อมที่จะเปิดให้มีการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเพื่อหวังว่าการเปิดการท่องเที่ยวในครั้งนี้จะส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตให้กลับมาบูมได้อีกครั้งหนึ่งซึ่งจะส่งผลทำให้เศรษฐกิจในจังหวัดภูเก็ตนั้นกลับมาดีขึ้นกระแสตอบรับจากสายการบินต่างๆก็เข้ามามากขึ้นเช่นเดียวกัน

    ซึ่งปัจจุบันนี้สายการบินส่วนใหญ่ของไทยนั้น

กำลังเพิ่มเส้นทางการบินระหว่างภูเก็ตกับต่างประเทศอย่างล่าสุดทางด้านสายการบินของการบินไทยนั้นก็ตอบรับโครงการนี้ของจังหวัดภูเก็ตเช่นเดียวกันโดยมีการส่งสายการบิน Thai Smile เปิดเส้นทางการบินเพื่อให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินมาที่ภูเก็ตได้  

      โดยสายการบิน  Thai Smile นั้นจะเริ่มเปิดเที่ยวบินในวันที่ 2 เดือนกรกฎาคมปีพศ 2564 เป็นการเปิดเที่ยวบินระหว่างภูเก็ตกับฮ่องกงซึ่งจะมีการบินอาทิตย์ละ 4 เที่ยวบินด้วยกันเพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาเที่ยวที่ภูเก็ตได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น 

        สำหรับโครงการของภูเก็ตที่จะมีการเปิดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศนั้นเป็นโครงการที่ชื่อว่า Phuket Sandbox ซึ่งโครงการนี้ได้รับความเห็นชอบจากทางรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้วมีการส่งเรื่องเข้าที่ประชุมมีมติครมออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วอย่างไรก็ตามโครงการนี้กำลังจะเปิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้

       ซึ่งคาดว่าจากการเปิดการท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้จะทำให้กระแสการท่องเที่ยวกลับมาใหม่อีกครั้งหนึ่งโดยชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวที่ภูเก็ตกันเยอะขึ้นเนื่องจากว่าเป็นการเปิดการท่องเที่ยวโดยที่นักท่องเที่ยวนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องกักตัวเพียงแค่มีเอกสารยืนยันการฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้วนั่นเอง 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย   ทางเข้า ufabet

Covid ทำพิษไทยต้องรีบชี้แจงกับลาวเพื่อป้องกันการห้ามนำเข้าอาหารทะเลไทย

          สถานการณ์ของประเทศไทยในขณะนี้นอกจากจะต้องเตรียมรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิคที่กำลังกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ของแต่ละจังหวัดในประเทศไทยแล้ว  Covid ทำพิษไทยต้องรีบชี้แจงกับลาว  ยังต้องมีการรับมือกับการที่ต่างประเทศอาจจะต้องมีการสั่งระงับการนำเข้าอาหารทะเลของประเทศไทย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ในตอนนี้ประเทศไทยจำเป็นต้องออกมาชี้แจงสถานการณ์เกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรน่าภายในจังหวัดสมุทรสาครซึ่งเป็นแหล่งส่งอาหารทะเลของไทยออกไปยังต่างประเทศ

        ในตอนนี้เรื่องของจํานวนผู้ติดเชื้อไวรัสในไทยเพิ่มมากขึ้นและข่าวที่มีการกระจายอยู่ในตอนนี้ก็มีการกระจายข่าวว่าผู้ที่ติดเชื้อไวรัสนั้นส่วนใหญ่ได้เดินทางไปที่จังหวัดสมุทรสาครเพื่อเดินทางไปยังตลาดที่ขายอาหารทะเลเป็นหลักและเมื่อคนเหล่านั้นเดินทางไปซื้ออาหารทะเลต่างก็พากันติดเชื้อไวรัสโคโรน่า

   ข้อมูลข่าวสารนี้เองไม่ได้เป็นแค่คนไทยเท่านั้นที่ได้รับข่าวสารแบบนี้ต่างประเทศเองก็ได้รับข่าวสารนี้เช่นเดียวกันซึ่งผลกระทบจากข่าวสารนี้ส่งผลทำให้ประเทศลาวเริ่มมีการเตรียมออกมาตรการประกาศจะไม่รับซื้อสินค้าที่เป็นอาหารทะเลของไทยเนื่องจากว่าประเทศเราเกรงว่าอาหารทะเลที่นำเข้าจากประเทศไทยนั้นจะนำเชื้อไวรัสโคโรน่าไปแพร่กระจายในประเทศลาวนั่นเอง

         อย่างไรก็ตามในตอนนี้ขั้นตอนของประเทศลาวเป็นแค่เพียงการเตรียมการที่จะประกาศการห้ามนำเข้าอาหารทะเลเพียงเท่านั้นแต่ยังไม่ได้มีการประกาศออกมาดังนั้นสิ่งที่ประเทศไทยต้องทำก็คือจะต้องมีการเตรียมข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆเพื่อเอาไปชี้แจงให้กับผู้นำประเทศลาวได้ทราบถึงปัญหาภายในประเทศไทยที่เกิดขึ้นและต้องเตรียมข้อมูลข้อชี้แจงต่างๆเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสให้ประเทศลาวได้เข้าใจว่าไวรัสไม่ได้ระบาดจากสัตว์มาสู่คนแต่อย่างใด

         เพื่อเป็นการเสริมความมั่นใจให้กับประเทศลาวว่าอาหารทะเลของไทยนั้นปลอดจากเชื้อไวรัสโคโรนาอย่างแน่นอนและสามารถนำเข้าและรับประทานได้ตามปกติ Covid ทำพิษไทยต้องรีบชี้แจงกับลาว  โดยในขนาดนี้อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกำลังให้หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องทำการรวบรวมเอกสารและหลักฐานต่างๆเพื่อที่จะได้เดินทางไปที่ประเทศลาวเข้าชี้แจงกับเหตุการณ์และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย  

       โดยหวังว่าสิ่งที่ไทยมีการชี้แจงไปนั้นจะทำให้สถานการณ์ด้านการส่งออกอาหารทะเลของไทยนั้นไม่ถูกระงับเพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้นรายได้จำนวนมหาศาลจากการส่งออกอาหารทะเลของไทยที่ส่งออกไปยังประเทศลาวนั้นจำเป็นต้องหยุดชะงักลงและจะมีส่งผลกระทบต่อปัญหาเศรษฐกิจการส่งออกอาหารทะเลของไทยอย่างแน่นอน ปัจจุบันประเทศลาวนับว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่รับซื้ออาหารทะเลแช่แข็งจากไทย มากถึงปีละ 120 ล้านาทเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย.   gclub slot เล่นผ่านเว็บ

Lotus กับ Big C ปะทะเดือด

      เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินข่าวมาบ้างแล้วเกี่ยวกับการรวมกิจการของบริษัท 7eleven และบริษัทเทสโก้โลตัสเข้ามารวมอยู่ภายใต้การบริหารงานของเจ้าสัวซีพี  Lotus กับ Big C ปะทะเดือด ซึ่งเป็นผู้บริหารยักษ์ใหญ่ทางด้านการขายสินค้าโชว์ห่วย  นับตั้งแต่มีการซื้อกิจการของ Tesco Lotus มารวมอยู่บริษัทซีพีนั้นทำให้ปัจจุบันนี้บริษัทซีพีมีสาขาที่ขายของโชว์ห่วยทั้งสาขาของเซเว่นและสาขาของ Tesco Lotus ในประเทศไทยเป็นจำนวนมากอาจกล่าวได้ว่าในประเทศไทยไม่มีตำบลไหนที่ไม่มีร้านสะดวกซื้อของเซเว่นหรือโลตัสเลย

      อย่างไรก็ตามแต่ในประเทศไทยนั้นไม่ได้มีร้านโชว์ห่วยที่ขายสินค้าทุกประเภทอย่างเซเว่นและโลตัสเพียงเท่านั้นแต่ยังมีบิ๊กซีที่มาร่วมการแข่งขันทางด้านการตลาดโดยมีการเปิดบิ๊กซีสาขาย่อยขนาดเล็กตามพื้นที่ในจังหวัดต่างๆเพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าสร้างผลกำไรให้กับทางบริษัท

         แต่เมื่อทางด้านคณะกรรมการการแข่งขันการค้าได้มีการอนุมัติออกมาให้ร้านค้าปลีกไม่ว่าจะเป็นของบริษัทในกลุ่ม CP หรือแม้แต่บิ๊กซีสามารถเปิดร้านค้าได้อย่างเสรีโดยที่ไม่จำกัดจำนวนสาขาในประเทศไทยทำให้ในขณะนี้การแข่งขันทางด้านการตลาดระหว่างบิ๊กซีกับเทสโก้โลตัสจึงมีการแข่งขันการดึงลูกค้ากันอย่างดุเดือดนั่นเอง

     Lotus กับ Big C ปะทะเดือด  จะเห็นได้ว่าในขณะนี้ทุกจังหวัดและทุกเขตอำเภอมีทั้งบิ๊กซีและโลตัสซึ่งเป็นระบบ Express ค่อนข้างเยอะมากและยังมีแนวโน้มว่าจะมีการขยายสาขามากขึ้นไปอีกเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า  สำหรับบริษัทซีพีนั้นจะเห็นได้ว่าถ้าเกือบทุกตารางเมตรในพื้นที่เดียวกัน

เรามักจะเห็นร้านเซเว่นอีเลฟเว่นนั้นเกิดขึ้นติดกันเลยทีเดียวแต่แม้ถึงแม้ว่าร้านเซเว่นอีเลฟเว่นจะอยู่ห่างกันไม่มากนักแต่ทุกร้านก็สร้างผลกำไรให้กับเจ้าของได้อย่างมากเลยทีเดียวเนื่องจากว่าประชาชนส่วนใหญ่นิยมเข้าไปซื้อสินค้าในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเพราะในร้านนั้นมีสินค้าทุกประเภทให้ลูกค้านั้นสามารถเลือกซื้อได้อย่างตามใจชอบนั่นเอง

      และเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นทางด้านผู้บริหารของ Big C คงต้องออกมาขยายสาขาของบิ๊กซีเพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าให้มีมากขึ้นหากไม่เช่นนั้นแล้วสงครามการแย่งลูกค้ากันของร้าน Tesco Lotus กับ Big C อาจจะทำให้ Tesco Lotus ชนะก็เป็นไปได้เพราะตอนนี้โลตัสนั้นได้รวมเข้ากับ 7eleven เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

         ในอนาคตการแข่งขันทางด้านการตลาดระหว่าง Tesco Lotus กับ Big C น่าจะรุนแรงมากยิ่งขึ้นเพราะคงไม่มีใครยอมใครแน่ระหว่าง 2 บริษัทนี้ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้เกิดการแข่งขันทางด้านราคากันมากขึ้นและอาจจะเป็นผลดีต่อลูกค้าเพราะเมื่อมีการแข่งขันด้านราคาสินค้าไม่ว่าจะในบิ๊กซีหรือแม้แต่ Tesco Lotus ก็จะถูกลง  ทำให้ลูกค้านั้นได้เปรียบในการซื้อสินค้าในราคาประหยัดนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    sexybaccarat

บริษัท Apple เรียกตัวพนักงานกลับไปทำงานที่ออฟฟิศในวันที่ 15 มิถุนายนนี้

       บริษัท Apple   หลายบริษัทเริ่มกลับมาใช้ชีวิตกันตามปกติแล้วพนักงานจากหลายบริษัทจึงจำเป็นต้องกลับมาทำงานที่บริษัทดังเดิมอย่างเช่นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple ก็เช่นเดียวกันทางผู้บริหารของบริษัท Apple นั้นได้มี

การติดต่อพนักงานทุกคนเกี่ยวกับเรื่องของการที่บริษัทนั้นจะเปิดให้พนักงานนั้นกลับมาที่ Apple Park ที่ครั้งหนึ่งซึ่งจะเป็นสถานที่ทำงานของบริษัท Apple ซึ่งโดยปกติแล้วพนักงานทุกคนก็จะทำงานที่ Apple Park นี่เอง ก่อนหน้านั้นมีการระบาดของไวรัสโควิคทำให้บริษัททุกบริษัทนั้น

จำเป็นต้องออกมาจากการให้พนักงานของบริษัทนั้นทำงานอยู่ที่บ้านยกเว้นที่บริษัทไหนไม่สามารถที่จะอนุญาตให้ทำงานอยู่ที่บ้านได้จริงๆจึงจะสามารถปล่อยให้พนักงานนั้นมาทำงานที่บริษัทได้อย่างไรก็ตามบริษัทแอปเปิ้ลนั้นหรือเป็นบริษัทด้านไอที

บริษัท Apple  ดังนั้นการทำงานของบริษัทส่วนใหญ่ก็สามารถที่จะคงการทำงานอยู่ที่บ้านได้โดยมีการประชุมปรึกษาหารือการผ่านทางวีดีโอคอลและติดต่องานกันผ่านทางอีเมลแต่เมื่อสถานการณ์ของการระบาดของไวรัส covid นั้นดีขึ้นทางบริษัทจึงได้มีนโยบายให้พนักงานนั้นกลับมาทำงานที่ Apple Parkเดิมโดยจะแบ่งการทำงานของพนักงานให้ทำงานที่ Apple Park นั้น

เฉพาะบังแผนกก่อนเธอไม่ให้สถานที่ทำงานนั้นหนาแน่นมากจนเกินไป  เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่พนักงานจะติดเชื้อไวรัสโควิคดังนั้นในขั้นตอนแรกนั้นจึงจะมีเฉพาะแค่บางแผนกเท่านั้นที่จะกลับมาทำงานที่ Apple Park แต่หลังจากที่มีการจัดตำแหน่งที่นั่ง

ของพนักงานได้เรียบร้อยพนักงานของแอปเปิ้ลก็จะกลับมาทำงานที่ Apple Parkได้ครบทุกแผนกนั่นเองซึ่งเริ่มประเดิมแผนกบุคคลกลุ่มแรกนั้นก็จะเป็นวันที่ 15 เดือนมิถุนายนปีพศ2563 นี้ที่จะมีพนักงานเดินทางมาทำงานที่Apple Park  นี้

อย่างไรก็ตามก็จะมีพนักงานบางกลุ่มที่ยังคงสถานะการทำงานอยู่ที่บ้านเหมือนเดิมซึ่งการติดต่อการทำงานระหว่างคนที่บ้านกับพนักงานที่ทำงานที่ Apple Park นั้นก็จะยังคงติดต่อกันผ่านทางอีเมลและผ่านทางวีดีโอคอลเหมือนเดิม  

สำหรับบริษัทหลายบริษัทนั้นเริ่มทยอยเปิดให้พนักงานกลับมาทำงานที่บริษัทกันบ้างแล้วยังมีบางบริษัทที่อนุญาตให้พนักงานนั้นยังคงสถานะการทำงานอยู่ที่บ้านได้เช่นบริษัท Facebook และบริษัท google ที่ออกมาประกาศก่อนหน้านั้นแล้วว่าจะอนุญาตให้พนักงานนั้นสามารถทำงานอยู่ที่บ้านได้จนถึงสิ้นปี

เพราะเล็งเห็นแล้วว่าถึงแม้ว่าพนักงานจะทำงานอยู่ที่บ้านก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากบริษัทต่างๆเหล่านั้นทำงานในรูปแบบของงานไอทีเป็นการใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นหลักอยู่แล้วดังนั้นไม่ว่าจะใช้งานอยู่ที่ไหนทุกคนก็สามารถสื่อสารกันได้นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.    ufabet ฝากถอน ไม่มีขั้นต่ำ ออโต้

บริษัทการบินไทย ต้องการลดพนักงานอีก 6000 คนเปิดโครงการสมัครใจลาออกครั้งที่ 2

เมื่อวันที่ 20 เดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ 2554   ได้มีการประกาศออกมาจาก บริษัทการบินไทย เกี่ยวกับเรื่องของสถานการณ์ของบริษัทซึ่งขณะนี้ยังต้องมีการปรับปรุงแผนงานต่างๆภายในบริษัทและองค์กรเพื่อทำให้การฟื้นฟูกิจการของบริษัทการบินไทยนั้นประสบความสำเร็จสามารถฟื้นฟูได้ตามที่มีการกำหนดแผนการเอาไว้

         โดยล่าสุดทางด้าน บริษัทการบินไทย ได้ออกมาเปิดเผยแผนการที่จะมีการปรับโครงสร้างของบริษัทใหม่ว่าในการปรับโครงสร้างใหม่ของบริษัทในปีนี้นั้นทางด้านบริษัทการบินไทยจำเป็นที่จะต้องลดจำนวนคนลงไปอีกจำนวนถึง 6,000 ด้วยกันดังนั้นในช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงที่บริษัทการบินไทยจำเป็นที่จะต้องปลดพนักงานมากถึง 6000 คน 

           ยังไงก็ตามทางด้านบริษัทการบินไทยไม่ได้มีการยื่นเอกสารปลดพนักงานโดยตรงแต่เลือกที่จะมีการเปิดโครงการขึ้นมาให้พนักงานนั้นสมัครใจในการลาออกจากบริษัทเองโดยโครงการนี้คือโครงการสมัครใจลาออกซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีโครงการนี้มาแล้วและก็มีพนักงานการบินไทยหลายคนที่เข้าร่วมโครงการนี้เป็นอย่างมากซึ่งในครั้งนี้ก็มีการเปิดโครงการนี้ใหม่เช่นเดียวกัน

โดยจะมีการเปิดครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 อย่างแน่นอนซึ่งโครงการนี้จะมีผลในช่วงประมาณวันที่ 19 กุมภาพันธ์ปีพศ. 2564 ที่พนักงานสามารถมายื่นความจำนงที่จะขอเข้าโครงการนี้ได้และโครงการนี้จะเริ่มมีผลในการปลดพนักงานในวันที่ 1 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2564 นั่นเอง

       นอกจากนี้พนักงานที่เหลือบางส่วนที่ยังคงทำงานให้กับบริษัทการบินไทยก็จะถูกลดเงินเดือนลงเช่นเดียวกันซึ่งในขณะนี้เงินเดือนที่จะถูกลดนนนั้นจะลดลงถึง 33% กันเลยทีเดียว   ปัจจุบันบริษัทการบินไทยเหลือพนักงานในองค์กรไม่มากเท่าไหร่แล้วซึ่งข้อมูลล่าสุดนั้นมีพนักงานไม่เกิน 15,000 เท่านั้นเองแต่หลังจากที่บริษัทการบินไทยจะมีการเปิดโครงการสมัครใจลาออกอีก 2 ครั้งอย่างต่อเนื่องกันนั้นคาดว่าพนักงานการบินไทยจะลดลงมาเหลือเพียงไม่เกิน 11000 คนเท่านั้นอย่างแน่นอน 

             สำหรับแผนการฟื้นฟูบริษัทการบินไทยเบื้องต้นนั้นในช่วงเวลานี้ทางบริษัทการบินไทยยังไม่ได้มีรายได้จากการรับผู้โดยสารระหว่างประเทศทำให้พนักงานของบริษัทการบินไทยว่างงานค่อนข้างเยอะจึงจำเป็นต้องลดขนาดองค์กรลงมาจนกว่าสถานการณ์ของสายการบินจะกลับมาดีขึ้นและบริษัทการบินไทยสามารถเปิดเที่ยวบินระหว่างประเทศได้ถึงจะมีการรับพนักงานเพิ่มขึ้นดังนั้นในช่วงเวลานี้เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายของบริษัทจึงจำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานลงนั่นเอง 

      เชื่อว่าแผนงานที่การบินไทยจัดขึ้นในครั้งนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับบริษัทได้ประหยัดเงินได้มาก

 

สนับสนุนโดย.   ufabet ฝาก-ถอน ออโต้

กินเจปีนี้ราคาผักสูงขึ้นมากทำเอาชาวสวนยิ้มร่า

           นับตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ช่วงของเทศกาลกินเจจะเห็นได้ว่าเทศกาลกินเจนี้ราคาผักโดยเฉพาะผักปลอดสารพิษนั้นมีราคาค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียว

  ซึ่งในมุมมองของชาวสวนที่มีการปลูกผักขายแล้วพวกเขานั้นรู้สึกมีความสุขมากกับการที่พักของเขานั้นเมื่อปลูกมาขายแล้วสามารถสร้างกำไรให้กับพวกเขา ปกติก่อนหน้านี้ราคาผักนั้นมีการดีดตัวสูงขึ้น

จากสถานการณ์ที่เศรษฐกิจไม่ดีทำให้สินค้าหลายอย่างมีการปรับขึ้นราคามากแต่อย่างไรก็ตามยิ่งเข้ามาในช่วงของเทศกาลกินเจผักกับมีราคาสูงขึ้นมากขึ้นกว่าเดิมอีกเกือบเท่าตัวถึงแม้ว่าคนจะกินเจน้อยลงแต่คนส่วนใหญ่หันมารักสุขภาพกันมากดังนั้นจึงทำให้ผักขายดี

        แต่อย่างไรก็ตามแต่ในมุมมองของผู้บริโภคนั้นมองว่าในช่วงนี้ผักค่อนข้างมีราคาสูงมากทำให้มีผลกระทบเกี่ยวกับเรื่องของรายจ่ายที่จะต้องมีการนำเงินออกมาใช้จ่ายในการซื้ออาหารไปรับประทานโดยเฉพาะในการซื้อผักไปปรุงอาหารนั่นเอง

            และจากการที่มีการสำรวจการตลาดต่างๆซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่จะเห็นได้ว่าในช่วงปีนี้กลุ่มเกษตรกรได้มีการส่งทักมาขายมากขึ้นด้วยผักนั้นมีการปรับราคาสูงขึ้นเกือบทุกชนิดเลยก็ว่าได้  และชาวเกษตรกรยังได้ให้ข้อมูลด้วยว่าในการส่งผักมาขายในปีนี้นั้นมีการส่งผักมาขายในปริมาณเท่ากับเมื่อปีที่แล้วแต่ราคาหากเทียบกันแล้วปีนี้ได้ราคาดีกว่าปีที่แล้วเยอะมากขนาดขึ้นฉ่ายในปีนี้ราคายังอยู่ที่กิโลกรัมละ 180 บาทที่สำคัญยังมีพระอื่นๆที่ผู้คนนิยมซื้อกินกันไม่ว่าจะเป็นผักบุ้งหรือผักคะน้าต่างก็มีราคาสูงขึ้นหากเปรียบเทียบจากปีที่ผ่านมา

         และถึงแม้ว่าราคาผักจะเพิ่มสูงขึ้นแต่ทางด้านเกษตรกรก็ยังอยากต้องการให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือดูแลเกี่ยวกับเรื่องของรายได้อยู่เช่นเดิมเพราะตอนนี้ถึงแม้ว่าการลงทุนในการปลูกผักจะลงทุนต่ำและสามารถสร้างรายได้ได้เยอะขึ้นแต่กลุ่มเกษตรกรก็ยังไม่ไว้วางใจว่าในอนาคตนั้นจะยังคงรักษาฐานราคาผักที่สูงเหมือนอย่างในขณะนี้ได้อยู่หรือไม่เพราะกลุ่มเกษตรกรต่างก็กลัวว่าหากสิ้นสุดเทศกาลกินเจไปแล้วราคาผักกาดจะมีการปรับลดต่ำลงดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือดูเรื่องของราคาซื้อขายผักในช่วงนี้เพื่อที่ในอนาคตจะได้ไม่มีปัญหา 

          อย่างไรก็ตามแต่ในขณะนี้ปริมาณผักที่นำมาขายในตลาดนั้นเริ่มลดน้อยลงแต่ราคาผักกับหญิงตัวสูงขึ้นเพราะผักกำลังเริ่มจะขาดตลาดสาเหตุนั่นก็เพราะว่าบางจังหวัดนั้นได้ถูกพายุเข้าและเกิดปัญหาน้ำท่วมขังทำให้ผักที่กลุ่มเกษตรกรมีการปลูกเอาไว้นั้นเกิดเน่าเสียและไม่สามารถนำมาขายได้ซึ่งเป็นสาเหตุให้ตลาดการขายผักมีผักน้อยลงและเหมือนกับว่าพรรคจะขาดตลาดทั้งที่ความต้องการผักในช่วงนี้ของประชาชนนั้นมีมากขึ้นจึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ตอนนี้ผักมีราคาดีดตัวสูงขึ้น

 

ขอขอบคุณ   gclub ฝาก ขั้นต่ำ 20    ที่ให้การสนับสนุน

นักศึกษาจบใหม่ปี 63 อาจต้องตกงานมากกว่าครึ่งเศรษฐกิจไทยทรุดหนัก

           โดยปกติแล้วเมื่อนักศึกษาได้มีการเรียนจบออกมาหางานทำก็ไม่ได้มีการได้งานกันทุกคนในแต่ละปีนั้นเรามักจะพบว่านักศึกษาที่เพิ่งจบมาและออกหางานทำนั้นจะมีปริมาณไม่มากที่จะได้งานตามที่ตนเองต้องการส่วนใหญ่แล้วถ้าหากไม่เลือกงานก็จะได้งานทำ

ซึ่งงานนั้นก็อาจจะไม่ได้ตรงกับสาขาที่ตนเองร่ำเรียนมาแต่อย่างไรก็ตามในช่วงปี 63 นี้เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยนั้นกำลังอยู่ในขั้นวิกฤตเศรษฐกิจไทยถือว่าค่อนข้างทรุดหนักมากในช่วงนี้ผู้ประกอบการหลายรายต้องปิดกิจการลงทั้งแบบชั่วคราวรวมถึงแบบถาวร

และบริษัทมีการไล่พนักงานออกและยังมีแนวโน้มว่าอีกหลายบริษัทก็กำลังจะปิดกิจการลงในเร็ววันนี้ถ้าสถานการณ์ของเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้นซึ่งผลพวงดังกล่าวนั้นก็เกิดมาจากการที่มีไวรัสระบาดในประเทศไทยและกำลังระบาดลุกลามไปทั่วโลกนั่นเองอย่างไรก็ตามในช่วงปี 63 นี้

มีแนวโน้มว่าจะมีนักศึกษาที่จบใหม่ออกมาอีกจำนวนหลายแสนคนและแน่นอนว่าด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้เห็นได้ชัดว่านักศึกษาจบใหม่นั้นจะไม่สามารถที่จะเลือกงานตามที่ตนเองต้องการได้ถ้าหากคะแนนของพวกเขานั้นไม่ได้สูงมากพอรวมถึงมีแนวโน้มว่าจะมีนักศึกษาที่จบใหม่นั้นอาจหางานทำไม่ได้หรือต้องเตะฝุ่นไปพลางๆก่อนในช่วงนี้อีกจำนวนหลายแสนคนเลยทีเดียว

เกี่ยวกับเรื่องของนักศึกษาที่กำลังจะจบใหม่ในช่วงนี้นั้นทางรัฐบาลเองก็มีความกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมากเช่นเดียวกันเพราะมีการคำนวณออกมาแล้วว่าจะมีนักศึกษาจบในปี 2563 นี้มากถึง 5 แสนคนแต่ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงนี้นั้น ทางด้านองค์กรนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทยก็เกิดความรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นเดียวกัน

เพราะว่าจำนวนของบริษัทหรือธุรกิจที่เปิดรับสมัครลูกจ้างอยู่ในขณะนี้ค่อนข้างมีจำนวนไม่มากนักและที่สำคัญคุณสมบัติของบริษัทส่วนใหญ่ที่ส่งมาเพื่อรับลูกจ้างนั้นก็มักจะต้องการลูกจ้างที่มีประสบการณ์ในการทำงานรวมถึงจะต้องจบมาตรงกับสายอาชีพที่บริษัทนั้นมีความต้องการ

แน่นอนว่าในช่วงนี้บริษัทไหนที่มีความสามารถที่จะรับลูกจ้างเพิ่มได้นั้นสามารถที่จะเลือกได้เลยว่าจะรับพนักงานแบบไหนเนื่องจากว่ามีจำนวนหลายคนมากเลยทีเดียวที่ตอนนี้ไม่มีงานทำทั้งพนักงานเก่าที่ถูกเลิกจ้างที่กำลังต้องหางานและยังต้องมีนักศึกษาจบใหม่ที่กำลังจะออกมาหางานทำกันอีก

ดังนั้นแน่นอนว่าผลกระทบนี้กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของรัฐบาลไทยชุดนี้ที่จะต้องเร่งหาทางแก้ไขปัญหาอาจไม่เช่นนั้นแล้วประเทศไทยจะมีคนว่างงานเป็นล้านๆคนเลยก็ว่าได้และจะยิ่งส่งผลให้ทั้งเศรษฐกิจไทยและธุรกิจของไทยนั้นแย่ไปตามๆกันนั่นเอง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    ติดต่อ ufabet