ศาสนาพราหมณ์ เริ่มต้นจากประเทศอินเดียในประมาณพุทธศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์ศตวรรษ โดยเป็นผลมาจากการสอดคล้องกันของศาสนาอินเดียต่าง ๆ โดยเฉพาะศาสนาบราฮ์มัปปะ (Brahmanism) และพระพุทธศาสนา (Buddhism)
ซึ่งมีแนวคิดเกี่ยวกับการพาเสน่ห์ในการชำระบารมี (asceticism) และการปฏิวัติจากวัฒนธรรมวงการและการบริโภค เพื่อการเป็นข้าวของจิตใจ และการพบความจริงที่แท้จริง
นักสร้างศาสนาพราหมณ์เริ่มต้นจากพระศาสนาของโชคชัย (Siddhartha Gautama) หรือพระพุทธเจ้า ซึ่งได้ผูกพันธ์ุครอบครัวกายเลี้ยงสุขภาพและหาความรู้เกี่ยวกับความทรงจำในชีวิต จนกลายเป็นพระพุทธเจ้า ต่อมาเขาเริ่มสอนถึงพระศาสนาที่กล่าวถึงการทำธรรมและการประพฤติตนตามหลักการแห่ง “มิตรภาพ” (สังเวคะ)
และ “กำลังใจ” (สัเคะ) โดยรวมถึงการพูดถึงการฝึกอบรมจิตใจ เช่น การทำสมาธิ การวัดผลความคิดและจิตใจ และการพูดคุยสมมติฐาน
ในเอกสารพราหมณ์เช่น “อุปฏิภาณสูตร” (Dhammapada) ของพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ยังมีการแสดงถึงความเชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้าในการรับรู้ความจริง
ความจริงหมายถึงสามลักษณ์สำคัญของชีวิตมนุษย์: ความเจริญกิจ ความทรงจำในการเป็นอิสระจากความโทษ และความเรียนรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ศาสนาพราหมณ์ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มผู้ที่เรียกตัวเองว่า “พระสงฆ์” (Bhikkhus)
ซึ่งเป็นผู้ที่ทำหน้าที่เป็นผู้สอนและผู้ฝึกอบรมศาสนา และ “พระนิกาย” (Nikaya) ซึ่งเป็นพระนักวิจักษ์ที่ปฏิบัติการวิจักษ์ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จประสูติไปแล้ว ศาสนาพราหมณ์กลายเป็นศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในอินเดียในศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศตวรรษ และในภูมิภาคเอเชียใต้โดยเฉพาะ
แต่มีเหตุการณ์ที่มีผลกระทบในการแต่งกายของศาสนาพราหมณ์ เช่น การแตกต่างทางวัฒนธรรม และการแบ่งแยกภูมิภาค เป็นส่วนใหญ่ที่สุดในศาสนาพราหมณ์ทั้งหมด ได้เป็นเหตุให้เกิดการแยกแยะของศาสนาพราหมณ์เป็นประการหลายประการ ซึ่งมีทั้งหมด 18 แนวคิด (Nikayas) หรือ “ทาง” (sects)
ในภูมิภาคอินเดีย และต่อมาเผยแพร่ไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในศตวรรษที่ 3 ถึง 6 หลังจากคริสตศตวรรษ และเมื่อเกิดการกระจายของพระสงฆ์ไปยังประเทศอื่น ๆ จนถึงอินเดียตะวันตกและทวีปยุโรป เศรษฐกิจใหม่ ซึ่งมีต้นกำเนิดในประเทศอินเดียในศตวรรษที่ 6 หรือ 5 ก่อนคริสต์ศตวรรษ และสร้างเมืองราชายุทธยานิ (Rajagriha) ที่ใหญ่ที่สุดในช่วงเวลานั้น
การนับถือในศาสนาพราหมณ์มุ่งเน้นการปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยมีหลักการและปฏิบัติที่สำคัญดังนี้
1.การปฏิบัติสมาธิ: การนั่งสมาธิเพื่อช่วยให้จิตใจสงบ และพัฒนาการมองโลกในแง่ดี ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้นำไปสู่การรับรู้ความจริงและความสงบใจ
2.การเชื่อฟังศาสนา: การฟังคำสอนและเรียนรู้เกี่ยวกับสมบัติที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ เช่น ปฏิบัติดี อนุรักษ์ชีวิต และเหตุผลในการรับรู้ความทุกข์ของมนุษย์
3.การทำบุญ: การให้บริจาคทรัพยากรต่าง ๆ โดยไม่คาดหวังผลตอบแทน ซึ่งเป็นการเสริมสร้างคุณธรรมและพัฒนาจิตใจ
4.การให้คำปรึกษา: ผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมในศาสนาพราหมณ์มักมีหน้าที่ในการให้คำปรึกษาและคำแนะนำในด้านศาสนาและสมาธิ
5.การเชื่อฟังพระสงฆ์: การให้ความเคารพและเชื่อฟังคำสอนของพระสงฆ์ เน้นการศึกษาและการเรียนรู้จากพระสงฆ์เป็นส่วนสำคัญของการนับถือ
สนับสนุนโดย หวยดี