คลังเก็บหมวดหมู่: ธุรกิจและเศรษฐกิจ

เทคนิคขายเครื่องสำอาง สกินแคร์

การขายเครื่องสำอางและสกินแคร์เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง เนื่องจากตลาดมีความต้องการสินค้าประเภทนี้อยู่ตลอดเวลา การที่คุณจะสามารถโดดเด่นและดึงดูดลูกค้าได้จึงจำเป็นต้องมีเทคนิคการขายที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคขายเครื่องสำอางและสกินแคร์ที่มีประสิทธิภาพ 500 คำ

  1. การทำความเข้าใจลูกค้า

การเข้าใจความต้องการและปัญหาของลูกค้าเป็นกุญแจสำคัญ คุณควรทำการสำรวจหรือติดตามพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า เช่น ลูกค้าของคุณกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย หรือผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่าย การทำความเข้าใจในจุดนี้จะช่วยให้คุณสามารถแนะนำสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้

  1. การสร้างความน่าเชื่อถือผ่านรีวิวและคำแนะนำ

รีวิวจากลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์จริงเป็นเครื่องมือที่มีพลังมากในการขายเครื่องสำอางและสกินแคร์ คุณควรส่งเสริมให้ลูกค้าของคุณแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้าผ่านทางเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย และนำเสนอรีวิวเหล่านั้นให้กับลูกค้าใหม่เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ การให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ผิวหนังเป็นอีกวิธีที่ช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือได้ดี

  1. การใช้สื่อโซเชียลมีเดียให้เกิดประโยชน์สูงสุด

โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับการโปรโมตผลิตภัณฑ์ คุณสามารถใช้ Instagram และ Facebook ในการแสดงภาพผลิตภัณฑ์ การรีวิวจากลูกค้า และการสาธิตวิธีใช้ นอกจากนี้ การใช้ Influencer ในการโปรโมตสินค้าก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ได้รับความนิยมและได้ผลดี คุณควรเลือก Influencer ที่มีกลุ่มผู้ติดตามที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ

  1. การใช้การตลาดแบบส่วนบุคคล

การตลาดแบบส่วนบุคคล (Personalization) เป็นวิธีที่ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าผลิตภัณฑ์ที่คุณนำเสนอนั้นถูกสร้างมาเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ คุณสามารถใช้ข้อมูลจากพฤติกรรมการซื้อหรือข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าในการส่งเสริมการขายผ่านอีเมลหรือการส่งข้อความ เช่น การแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตรงกับปัญหาผิวของลูกค้า หรือการเสนอส่วนลดพิเศษในวันเกิด

  1. การสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ดี

การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ ตั้งแต่การออกแบบเว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์ที่ใช้งานง่าย มีข้อมูลครบถ้วน ไปจนถึงการบริการลูกค้า การตอบคำถามอย่างรวดเร็ว และการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วและปลอดภัย ทั้งหมดนี้จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจและพร้อมที่จะกลับมาซื้อสินค้าจากคุณอีกครั้ง

  1. การจัดโปรโมชั่นและกิจกรรมส่งเสริมการขาย

โปรโมชั่นและกิจกรรมส่งเสริมการขายเป็นวิธีที่ดีในการดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ และกระตุ้นยอดขาย คุณสามารถจัดโปรโมชั่นลดราคา แถมสินค้าทดลองใช้ หรือการจัดกิจกรรมลุ้นรางวัล นอกจากนี้ คุณควรใช้โอกาสในช่วงเทศกาลหรือวันสำคัญ เช่น วันปีใหม่ วันแม่ ในการจัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อกระตุ้นยอดขาย

  1. การติดตามผลและปรับปรุงกลยุทธ์

สุดท้ายนี้ คุณควรติดตามผลลัพธ์จากการขายและการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินประสิทธิภาพและปรับปรุงกลยุทธ์การขาย หากพบว่ากลยุทธ์ใดได้ผลดี คุณควรทำต่อไป แต่หากพบว่ามีปัญหา ควรหาทางปรับปรุงให้ดีขึ้น

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    huaydee

SaaS คลาวด์ แนวหน้า ที่มาแรงในด้านธุรกิจ

ทำความรู้จักกับ  SaaS หากเพื่อน ๆ คน ไหน ที่กำลังมองหาตัวช่วยด้านธุรกิจที่ดี ช่วยให้คุณประหยัดเงิน อีกทั้งตอบสนองตอบโจทย์จากการใช้งานได้มากขึ้น คงต้องทำความรู้จักกับ  SaaS กันสักหน่อย 

SaaS มีชื่อเต็ม ๆ ว่า Software as a Service เป็นระบบคลาวด์ ที่ช่วยให้คุณสามารถใช้งานต่าง ๆ

บนอินเทอร์เน็ตได้ เข้าถึงงานต่าง ๆ เกี่ยวกับด้านคอมพิวเตอร์ทั้งหมด การใช้โปรแกรมต่าง ๆ ทำให้ไม่ต้องลงทุนซื้อ Server มาไว้ที่บ้าน อีกทั้งไม่ต้องโหลดเพื่อติดตั้งใด ๆโดยทั้งนี้หากมีการใช้งานแค่ไหน ก็จ่ายแค่เท่าที่ใช้ ซึ่งอย่างที่กล่าวมา ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ที่มีความต้องการด้านนี้ ประหยัดเงินมากขึ้น และยืดหยุ่นต่อการใช้งาน

บทบาทของ SaaS ในช่วงขณะนี้ที่ธุรกิจต่าง ๆ นั้น ถูกหยุดถูกแช่แข็งไว้ด้วยความเคลื่อนไหวสู่สมัยดิจิทัล ธุรกิจในทุกกรุ๊ปจะต้องปรับนิสัยรวมทั้งลงทุน เพื่อเอาอะไรใหม่ ๆ

มาช่วยอำนวยความสะดวกมากขึ้นในการประกอบงานธุรกิจ แม้กระทั่งผู้ใช้อย่างพวกเรา ๆ ก็ยังหนีไม่พ้นจำต้องปรับนิสัยใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ แบบเดียวกัน ตลาดของคลาวด์ก็เลยมีการเติบโตขึ้นอย่างเร็ว

บริษัทที่ศึกษาค้นคว้ารวมทั้งให้คำแนะนำทางด้านไอทีชั้นแนวหน้าอย่าง Gartner ได้เดาไว้ว่าในปี 2022 ตลาดด้านบริการระบบคลาวด์จะเพิ่มขึ้นสูงเกือบจะสามเท่าของตลาดงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศโดยรวมอย่างยิ่งจริง ๆ การเจริญเติบโตจะเกิดขึ้นในทุกบริการ

โดยกรุ๊ปตลาดโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในระดับหน่วยงานแทบจะทั้งหมดเลือกจะใช้แบบอย่าง SaaS

ซึ่งมันสามารถเพิ่มความสะดวกสบายให้บริษัททั้งยังขนาดเล็กรวมทั้งขนาดใหญ่ โดยมีผลการศึกษาจากDevSquad บริษัทผู้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่น่าดึงดูด ดังเช่น

ปริมาณการใช้จ่ายที่บริษัทใช้ลงทุนกับตัว SaaS นั้น มากขึ้นบ่อย ๆ มาตลอดตั้งแต่ปี 2010 แล้ว โดยเดาว่าค่าตลาดโดยรวมคงจะแตะต้องระดับ 6.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อถึงปี 2023

ทั้งนี้ ร้อยละสามสิบแปด ของหน่วยงานกล่าวว่าใช้ SaaS สำหรับการปฏิบัติการทั้งหมดทั้งปวง และร้อยละแปดสิบหกของหน่วยงานกล่าวว่าการใช้ตัวช่วยนี้ที่กล่าวมานั้น ช่วยทำให้บุคลากรมีส่วนร่วมเยอะขึ้นอย่างมีความนัย อีกทั้ง อเมริกาเหนือเป็นทวีปที่มีการเลือกใช้ SaaS สูงที่สุด

นอกนั้น ทางการ์ทเนอร์ยังกล่าวว่า จากการที่ทั่วโลกประสบปัญหาครั้งใหญ่ของโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา ทำให้ตลาด SaaS เติบโตอย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยมากขึ้นถึงร้อนละเก้าสิบห้าจุดสี่ หรือคิดเป็นราคาราวหนึ่งพันสองร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปี 2020

ด้วยเหตุว่าบริการคลาวด์อันที่กล่าวมานี้ เสนอหนทางที่ง่ายและมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าสำหรับหน่วยงานที่ส่งเสริมให้บุคลากรปฏิบัติงานผ่านระบบระยะไกลแล้วก็ปรารถนาความปลอดภัย ในการเปิดใช้Applicationของหน่วยงานผ่านเครื่องทำงาน รวมทั้งสถานที่ที่นานัปการ แล้วก็ SaaS จะยังคงเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สุดของคลาวด์ในตอนนี้ โดยคาดว่าจะมีการเจริญเติบโตถึง 1.18 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

สนับสนุนโดย    huaydee

Loopie ธุรกิจบริการซัก-รีด ที่ช่วยสร้างรายได้ให้ผู้ที่อยู่บ้านเฉย ๆ

เพียงแค่นึกถึงการต้องเพียรพยายามเพื่อไปซักรีดผ้ากองโตภายหลังจากการทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะไม่ทำได้จะหรืออยากนอนอยู่เฉย ๆ ก็ยังไม่ได้ นับเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก อีกทั้งสารพัดสารพันที่จำเป็นต้องพบระหว่างวิธีซักผ้ารีดผ้า ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยอาจแอบถอนใจยาวพรืด นี่เป็นเหตุผลว่าเพราะอะไรงานซักรีด ก็เลยแปลงเป็นงานบ้านงานเรือนที่น่าระอาหรือยุ่งยากสำหรับคนหลาย ๆ คนไม่ใช่น้อย

แล้วถ้าเกิดปัญหานี้อาจจะแก้ได้ เมื่อคนที่ไม่อยากซักผ้ารีดผ้าเอง เอาเสื้อผ้าไปให้คนที่เต็มใจจะทำให้ได้ล่ะ มันคงเป็นสิ่งที่น่าจะดีไม่ใช่น้อย Loopie ช่วยกันได้

เนื่องจากเป็นการช่วยแก้ปัญหาได้ดีจริง ๆ เพราะเป็นธุรกิจที่ช่วยทั้งผู้ที่ไม่ต้องการซัก-รีดผ้าเองให้สบายขึ้น และสร้างรายได้ให้กับผู้ที่อยู่บ้านและพอมีเวลาจะรับจ้างเสริม โดยอธิบายคร่าว ๆ คือ ฝ่ายว่าจ้างกดใช้บริการ จากนั้นนำเสื้อผ้าใส่กระเป๋าไปไว้หน้าบ้าน พอถึงเวลาจะมีเจ้าหน้าที่ของแอพฯ ไปเก็บกระเป๋านั้น

เพื่อนำไปให้กับผู้รับจ้างซัก-รีดถึงบ้าน แล้ววันต่อมาเสื้อผ้าที่ผ่านการซัก-รีดก็จะมาส่งที่หน้าบ้านของผู้ว่าจ้าง 

ไม่เพียงแต่สร้างรายได้แต่ว่า Loopie ยังช่วยขจัดปัญหาให้กับผู้คนได้อีกทางหนึ่ง ตอนนี้ Loopie มีบุคลากรซักรีดกว่า 60 คน ให้บริการลูกค้ากว่า 1,000 ราย ลูกค้าของเรามีหลาย ๆ รูปแบบ ธุรกิจร้านค้าต่าง ๆ อาทิเช่น สถานพยาบาลทันตแพทย์ สปา ร้านตัดผม

ไปจนกระทั่งผู้ที่ไม่มีสามารถซักรีดเอง ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่พึ่งผ่านการผ่าตัดหรืออาศัยอยู่ในบ้านพักที่ไม่อาจจะซักรีดได้

แม้กระทั้งในตอนโรคระบาด Loopie ก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ผู้ป่วยเลือกใช้ เพราะไม่สามารถทำด้วยตนเองได้และอาศัยในศูนย์ให้บริการคนไข้เร่งด่วน แพลนระยะยาวของ Loopie มิได้หยุดอยู่เพียงแค่การซักรีด หลังจากจบการแพร่ระบาดของโรค อาจจะทำให้ยอดการรับซักรีดตกลง ส่วนใดส่วนหนึ่งมาจากการปิดตัวชั่วครั้งคราวของกิจการค้า ร้านขายของต่าง ๆ

แต่ว่าเมื่อยังมีแพลตฟอร์มรวมทั้งฐานลูกค้าเดิมอยู่ บริษัทก็เลยได้ขยายไปยังธุรกิจใหม่ที่ชื่อ Shippie ซึ่งเป็นบริการจัดส่งของชิ้นน้อย ๆ สำหรับผู้ที่ออกมาจากบ้านมิได้ โดยใช้แบบอย่าง peer-to-peer ดังเช่นเดิม

ตอนนี้ธุรกิจของ Loopie กำลังเดินทางไปได้งาม แม้ว่าจะชะลอไปบ้างจากเหตุการณ์โรคระบาด รวมทั้งมีแผนการเปิดตลาดไปยังเมืองอื่น ๆ อีกหลายที่ แล้วก็เป็นอีกหนึ่งแบบอย่างที่น่าดึงดูดของธุรกิจที่คิดจากปัญหาชีวิตของลูกค้าที่ยังมิได้รับการปรับปรุงโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วยได้อย่างพอดี

 

สนับสนุนโดย    เว็บหวยดี

Andy Jassy ผู้ที่เปรียบเสมือนกับตัวตนของ Amazon ที่เดินได้

Andy Jassy ผู้ที่เปรียบเสมือนกับตัวตนของ Amazon ที่เดินได้ ด้วยบุคลิกภาพนิสัยสำหรับเพื่อการทำธุรกิจ และก็ความเป็นหัวหน้าที่เป็นไปในรูปแบบเดียวกันกับ Jeff Bezos

จนถึงพูดได้ว่า Andy Jassy เปรียบเป็นคนอีกคนของเขาก็ได้เลยไม่ผิด ทำให้เขาดูดซับรวมทั้งศึกษากรรมวิธีการบริหาร การจัดการ การแก้ไขปัญหารวมทั้งศาสตร์ในการทำงานของเบซอสมาตั้งแต่สมัยแรก ๆ

แมตต์ แมคอิลเวน (Matt McIlwain) ประธานของบริษัทแห่งหนึ่งที่ลงทุนในธุรกิจ Amazon มาตั้งแต่ต้นและก็รักษาความข้องเกี่ยวมาอย่างช้านาน ได้เอ่ยถึง แจสซีไว้ว่า เป็นคนที่มีความเป็น Amazon ที่เดินได้ โดยไม่แม้แต่จะเป็นการเอาใจใส่ลูกค้า การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้แก่ลูกค้ากลับมาเป็นแก้ไขได้อย่างดีเยี่ยม อย่างที่เขาประยุกต์ใช้กับ AWS ซึ่งก็คล้ายกับวิถีทางของเบซอสที่เน้นย้ำการสนใจความรู้สึกที่ลูกค้าได้รับอย่างเป็นจริงเป็นจัง

เวลาเดียวกันนั้นแจสซีก็ยังตกทอดปรัชญาในการทำงานที่มีชื่อเสียงของเบซอสอย่างเดย์วัน ที่รอย้ำเตือนตนเองว่าให้ทำวันแล้ววันเล่าเป็นราวกับวันทำธุรกิจวันแรกเสมอ ซึ่งถึงแม้จะเป็นบริษัทจะมีขนาดใหญ่มากแค่ไหนก็ตาม เป็นที่มาว่าเพราะเหตุไร Amazon มักลงทุนกับของใหม่ ๆ อยู่เสมอไม่ว่าจะเวลาใด

จนกระทั่งแตกแนวทางเป็นธุรกิจใหม่ ๆ ตามมาอีกเยอะแยะ เหมือนกันกับที่ทุกคนใน AWS ต่างเข้าใจกันดีอยู่แล้ว

ว่าแจสซีถูกใจส่งเสริมผู้ที่มีความคิดใหม่ ๆ อยู่ตลอด พวกเราก็เลยได้มองเห็น AWS ที่มักจะมอบอะไรใหม่ ๆ แปลก ๆ อย่างที่เจ้าอื่นไม่มี ตัวอย่างเช่น Snowmobile ซึ่งเป็นบริการคลาวด์ขนาดใหญ่ที่สามารถเก็บข้อมูลได้มากถึงหนึ่งล้านจีบี

อีกทั้งเขานั้นได้รับผิดชอบธุรกิจที่เป็นตัวทำเงินของ Amazon อยู่แล้ว อที่กล่าวไปเมื่อข้างต้นว่า AWS เป็นเลิศในบริษัทลูกของ Amazon ที่เปิดให้ใช้ cloud กับกรุ๊ปลูกค้าหน่วยงานทั้งยังขนาดเล็กและก็ขนาดใหญ่ ซึ่งมีราคาในการเข้าใช้งานที่ไม่แพงเลย AWS ก็เลยเป็นที่นิยมจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งโลกอย่างเร็ว เดี๋ยวนี้ได้แปลงเป็นผู้ให้บริการcloud อันดับต้น ๆ ของโลก

หลังจากวันที่หนึ่งที่เขาที่ก้าวเข้ามาดำเนินงาน แจสซีเริ่มปฏิบัติงานกับ Amazon ในตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ต่อจากนั้นเขาก็ไม่เคยออกไปดำเนินการที่อื่น ๆ อีกเลย หากแม้ในตอนต้นที่ AWS เริ่มให้บริการ เขาจำเป็นต้องเจอกับคำปรามาสเยอะมากว่าเทคโนโลยีcloudนั้น

ไม่สามารถที่จะเป็นจริงได้ แล้วก็เป็นสิ่งที่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ แม้กระนั้นเขาก็ได้ลบคำดูถูกพวกนั้น แล้วก็บริหารหน่วยงานจนกระทั่งสามารถสร้างรายได้อย่างใหญ่โต ประเภทที่ว่าผลกำไรกึ่งหนึ่งของ Amazon มาจากผลประกอบของ AWS อย่างยิ่งจริง ๆ

 

สนับสนุนโดย    หวยดี

ผลกระทบที่คนไทยจะได้รับจากนักลงทุนชาวจีน 

      เมื่อพูดถึงเรื่องของการลงทุน หลายคนอาจมีแนวความคิดว่าถ้าหากมีนักลงทุนจากชาวต่างชาติมาลงทุนในประเทศไทยก็จะสามารถสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทย

ให้มีความแข็งแกร่งคนไทยจะได้มีงานทำและมีอนาคตที่ดีมีค่าใช้จ่ายรวมถึงค่าครองชีพที่สูงขึ้นแต่ในขณะเดียวกันคุณรู้หรือไม่ว่าการที่มีชาวต่างชาติมาลงทุนในประเทศไทยนั้นกลับไม่ได้ส่งผลดีอย่างเดียวแต่ยังมีผลกระทบอื่นๆอีกมากมายและในบทความนี้เราจะมาพูดถึงผลกระทบที่คนไทยจะได้รับถ้าหากว่านักลงทุนชาวจีนมาทำธุรกิจค้าขายในประเทศไทยผลกระทบที่จะส่งผลเสียกับคนไทยเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

 ในสมัยแรกเริ่มเดินทีนั้นชาวจีนไม่ได้มีการลงทุนในประเทศไทยได้หลากหลายเหมือนในปัจจุบันนี้ซึ่งส่วนใหญ่ในเริ่มแรกนั้นคนจีนมักลงทุนด้วยการหาซื้อคอนโดรวมถึงอสังหาริมทรัพย์หลังจากนั้นก็จะมีการเปิดให้เช่าทำให้คนจีนมีรายได้

และกำไรจากการเปิดให้เช่าคอนโดและอสังหาริมทรัพย์อย่างไรก็ตามการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันนี้มีการเปิดเอื้ออำนวยให้กับนักลงทุนชาวจีนเป็นอย่างมากดังนั้นจะเห็นได้ว่าตามศูนย์เศรษฐกิจของไทยในกรุงเทพฯไม่ว่าจะเป็นโซนห้วยขวางหรือโซนเยาวราชก็ตามแต่จะมีชาวจีนมาซื้อตึกแถวรวมถึงคอนโดหลังจากนั้นก็เปิดขายในราคาที่ค่อนข้างสูง

เนื่องจากว่าตอนซื้อนั้นคนจีนก็ซื้อตึกแถวในราคาสูงนั่นเองจะเห็นได้จากในอดีตนั้นค่าเช่าตึกแถวต่อเดือนนั้นจะอยู่ที่เดือนละเพียงแค่ 15,000 บาท

แต่เมื่อนักลงทุนชาวจีนมาทำการซื้อตึกแถวและมีการปล่อยให้เช่าราคาตึกแถวนั้นกับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันนั้นถ้าหากเป็นแหล่งเศรษฐกิจอย่างเช่นสำเพ็งหรือเยาวราชค่าเช่าต่อเดือนของห้องเช่าหรืออาคารพาณิชย์ตึกแถวนั้นจะอยู่ที่ 500,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว

hoiana เวียดนาม  หรือถ้าหากอยู่แถวย่านพระราม 9 หรือเขตห้วยขวางนั้นราคาเช่าต่อเดือนตอนนี้ก็จะตกอยู่ที่ประมาณ 70,000-100,000 บาทนั่นเอง

ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าราคาค่าเช่าอาคารพาณิชย์ต่างๆบริเวณเศรษฐกิจทั้งหมดในกรุงเทพฯก็อาจจะกลายเป็น 3 แสนถึง 5 แสนบาทได้เลยทีเดียว ดังนั้นด้วยยอดราคาค่าเช่าที่สูงแบบนี้ทำให้คนไทยนั้นไม่มีเงินทุนมากพอที่จะมีการเช่าตึกแถวแถวที่เป็นแหล่งการค้าได้ 

ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้นักธุรกิจชาวจีนมาทำการเช่าตึกแถวและมีการเปิดธุรกิจเป็นของตนเองไม่ว่าจะเป็นการเช่าอาคารพาณิชย์เพื่อเปิดเป็นร้านอาหารหรือเปิดเป็นร้านค้าก็ตามและเชื่อว่าถ้าหากว่ายังเป็นแบบนี้ต่อไปอนาคตไม่น่าจะเกิน 10 ปีนี้เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ในกรุงเทพมหานครน่าจะเป็นคนจีนเกือบทั้งหมด

และคนไทยนั้นก็จะไม่มีร้านค้าเป็นของตนเองไม่สามารถที่จะเช่าตึกแถวหรืออาคารพาณิชย์ย่านการค้าที่สำคัญได้และบริเวณย่านการค้าที่สำคัญนี้ก็จะกลายเป็นสถานที่ที่คนจีนจะเข้ามาอาศัยอยู่และกลืนกลิ่นประเทศไทยและนี่คือผลกระทบอย่างยิ่งใหญ่ที่คนไทยจะได้รับหากยังคงมีการปล่อยให้คนจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยนั่นเอง 

เหตุผลที่สำคัญที่คนจีนมาลงทุนในประเทศไทย 

       หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่าทำไมชาวจีน จึงมาอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นจำนวนมากและไม่ได้มีการอาศัยเพื่อมาเที่ยวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

แต่ชาวจีนมักจะมาลงทุนในประเทศไทยซึ่งในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเหตุผลที่สำคัญที่ทำให้ชาวจีนตัดสินใจมาในลงทุนประเทศไทยว่าอะไรที่เป็นเหตุจูงใจ ที่สำคัญที่ทำให้คนจีนนั้นอยากเดินทางมาลงทุนในประเทศไทยกัน 

 ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าสินค้าของจีนถูกนำมาวางขายในประเทศไทยเป็นจำนวนมากซึ่งแต่ก่อนนั้นจะเป็นการขายโดยคนไทยนั้นไปติดต่อนำสินค้าจากจีนเข้ามาขายแต่สำหรับในปัจจุบันนี้เป็นคนจีนนำมาขายในประเทศไทยเองโดยตรงสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้คนจีนตัดสินใจมาลงทุนในประเทศไทยนั่นก็เพราะว่าเงื่อนไขของการจดทะเบียนการเปิดบริษัทของชาวต่างชาตินั้นเอื้ออำนวยให้นักธุรกิจชาวต่างชาติมาทำธุรกิจกับประเทศไทยและจะได้ผลประโยชน์เป็นอย่างมาก 

   อย่างเช่นเงื่อนไขของการจดทะเบียนบริษัทของชาวต่างชาติที่ตามระบุของพรบประจำปีพ.ศ 2542 นั้นระบุว่าถ้าชาวต่างชาติอยากจะมาจดทะเบียนเปิดบริษัทในประเทศไทย สามารถดำเนินการได้โดยทุนจดทะเบียนใช้เป็นเงินทุนขั้นต่ำอยู่ที่ 2 ล้านบาทก็สามารถทำการจดทะเบียนบริษัทได้แล้วและที่สำคัญชาวต่างชาติสามารถที่จะถือหุ้นในกิจการดังกล่าวได้ถึง 49% ในขณะที่คนไทยนั้นถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวได้ 51% 

ซึ่งหากมองอย่างนี้แล้วเหมือนคนไทยจะได้เปรียบแต่อันที่จริงแล้วชาวจีนมักจะมีการจ้างคนไทยมาทำการถือหุ้นแทนโดยอาจจะมีการว่าจ้างประชาชนธรรมดาทั่วไปใช้ชื่อประชาชนของคนไทยในการจดทะเบียนแบ่งหุ้นออกไปประมาณ 2-3 คนให้แต่ละคนนั้นถือหุ้นเพียงแค่ไม่เกิน 30% เท่านั้นเมื่อนำหุ้นของคนไทยแต่ละคนมารวมกันก็จะอยู่ที่ 51% ซึ่งคนไทยเหล่านี้นั้นไม่ใช่เจ้าของธุรกิจอย่างแท้จริงเป็นเพียงแค่คนจีนไปซื้อรายชื่อมาเท่านั้นหรือเรียกว่าคนจีนใช้เป็นตัวแทนหรือนอมินีนั่นเอง

 นอกจากการลงทุนในประเทศไทยจะไม่ต้องใช้เงินลงทุนเยอะแล้วยังมีเงื่อนไขเกี่ยวกับภาษีต่างๆที่คนจีนจะได้รับ

ยกเว้นในการนำสินค้าเข้ามาขายในประเทศไทยและรัฐบาลจีนเองก็สนับสนุนให้ประชาชนของตนเองนั้นมีการนำสินค้าออกไปขายต่างประเทศซึ่งมีการยกเว้นภาษีอีกด้วยดังนั้นคนจีนจึงนิยมนำสินค้าของตนเองมาขายที่ประเทศไทยพอได้รับผลประโยชน์มากมายและสร้างกำไรได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว

     นอกจากนี้สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือการนำสินค้าจากจีนเข้ามาขายในประเทศไทยนั้นใช้ระยะเวลาไม่นานเพราะมีการขนส่งทั้งทางอากาศและทางเรือซึ่งสร้างความสะดวกสบายให้กับเจ้าของกิจการและเจ้าของธุรกิจนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย   Huaylike

Index nextperience  2022 

        เมื่อพูดถึง Index Living Mall เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินและอาจจะเคยไปใช้บริการที่นี่กันมาบ้างเพราะ index นั้นจะมีการเปิดขายสินค้าซึ่งเป็นของตกแต่งบ้านรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ซึ่งเป็นผู้นำด้านการขายสินค้าเป็นอันดับต้นๆของไทยเกี่ยวกับสินค้าเฟอร์นิเจอร์แบบเป็นการขายปลีกนั่นเอง 

    อย่างไรก็ตามเราจะเห็นได้ว่า index นั้นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องสินค้าของทาง index ที่นำมาขายให้กับลูกค้านั้นจะเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ

ซึ่งจะมีราคาย่อมเยาไปจนถึงราคาค่อนข้างแพงเลยทีเดียวขึ้นอยู่กับว่าลูกค้านั้นมีปัจจัยในการซื้อมากน้อยแค่ไหนสามารถเลือกตามเกรดราคาของสินค้าได้

     อย่างไรก็ตามทาง index นั้นได้มีการเติบโตเกี่ยวกับเรื่องของการขายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านของใช้ภายในบ้านนั้นมาอย่างต่อเนื่องและ index ก็มีการวางเป้าหมายของ ปีพ.ศ. 2565 เอาไว้แล้วเช่นเดียวกันโดยอินเด็กได้มีการเปิดเผยแนวความคิดหรือวิสัยทัศน์ขององค์กรเกี่ยวกับเรื่องของการเพิ่มจำนวนลูกค้าการขับเคลื่อนให้บริษัทอินเด็กซ์เติบโตไปข้างหน้าโดย index จะมีโครงการ Index nextperience  2022

ซึ่งทาง index นั้นมีความมั่นใจว่าภายใน ปีพ.ศ. 2565 นี้ยอดการสั่งซื้อสินค้าของทาง Indexจะต้องมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้นโดยมีการตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะมีขายสินค้าได้มากถึง 8200 ล้านบาทเลยทีเดียว 

         อย่างไรก็ตามวิสัยวิสัยทัศน์ของทางIndex Living Mallที่มีการเปิดเผยออกมานั้นจะต้องมีการดูว่ามันประสบความสำเร็จหรือไม่เพราะอย่างที่รู้กันดีอยู่ว่าในขณะนี้หลายประเทศรวมถึงประเทศไทยนั้นกำลังต้องเจอกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิตและปัญหาด้านเศรษฐกิจซึ่งถือได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่อันดับต้นๆของประชาชนในตอนนี้เลยก็ว่าได้

        แม้ว่าใน ปีพ.ศ. 2565 นั้นความน่ากลัวของการระบาดของไวรัส covid จะไม่น่ากลัวเท่ากับช่วงแรกๆแต่ด้วยประชาชนได้รับผลกระทบจากการระบาดมาเป็นระยะเวลานานทำให้ตอนนี้เศรษฐกิจในครัวเรือนของแต่ละครัวเรือนนั้นได้รับผลกระทบและมีปัญหาอย่างหนักเพราะฉะนั้นการที่ประชาชนจะมีพฤติกรรมมาซื้อสินค้าซึ่งเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างสินค้าตกแต่งบ้านนั้นค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก

แต่ก็ต้องรอดูกันว่า index นั้นจะสามารถดึงดูดลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าของตนเองได้หรือไม่ Index  นั้นได้มีการวางกลยุทธ์เอาไว้ 4 อย่างด้วยกันและกลยุทธ์นี้คงต้องรอดูก่อนว่าท้ายที่สุดตอนสิ้น ปีพ.ศ. 2565 แล้วมันประสบความสำเร็จหรือไม่นั้นเอง

     สำหรับกลยุทธ์ของทาง Index Living Mall ที่จะมีการนำมาใช้ในปี 65 นี้นั้นก็จะมีการวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อสินค้าของทางลูกค้าหลังจากนั้นก็จะมีการผลิตและเสนอสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ารวมถึงมีการขยายสินค้าไปยังตลาดอื่นๆมีการเปิดสาขาให้มากขึ้นและมีการหาพันธมิตรในการขายสินค้าให้เยอะมากยิ่งขึ้นอย่างเช่นเป็นการขายสินค้าผ่านทางแอพพลิเคชั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บตรง

ผลกระทบที่คนไทยจะได้รับจากนักลงทุนชาวจีน 

     ผลกระทบที่คนไทย เมื่อพูดถึงเรื่องของการลงทุน หลายคนอาจมีแนวความคิดว่าถ้าหากมีนักลงทุนจากชาวต่างชาติมาลงทุนในประเทศไทยก็จะสามารถสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทย

ให้มีความแข็งแกร่งคนไทยจะได้มีงานทำและมีอนาคตที่ดีมีค่าใช้จ่ายรวมถึงค่าครองชีพที่สูงขึ้นแต่ในขณะเดียวกันคุณรู้หรือไม่ว่าการที่มีชาวต่างชาติมาลงทุนในประเทศไทยนั้นกลับไม่ได้ส่งผลดีอย่างเดียวแต่ยังมีผลกระทบอื่นๆอีกมากมายและในบทความนี้เราจะมาพูดถึงผลกระทบที่คนไทยจะได้รับถ้าหากว่านักลงทุนชาวจีนมาทำธุรกิจค้าขายในประเทศไทยผลกระทบที่จะส่งผลเสียกับคนไทยเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

 ในสมัยแรกเริ่มเดินทีนั้นชาวจีนไม่ได้มีการลงทุนในประเทศไทยได้หลากหลายเหมือนในปัจจุบันนี้ซึ่งส่วนใหญ่ในเริ่มแรกนั้นคนจีนมักลงทุนด้วยการหาซื้อคอนโดรวมถึงอสังหาริมทรัพย์หลังจากนั้นก็จะมีการเปิดให้เช่าทำให้คนจีนมีรายได้และกำไรจากการเปิดให้เช่าคอนโดและอสังหาริมทรัพย์

อย่างไรก็ตามการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันนี้มีการเปิดเอื้ออำนวยให้กับนักลงทุนชาวจีนเป็นอย่างมากดังนั้นจะเห็นได้ว่าตามศูนย์เศรษฐกิจของไทยในกรุงเทพฯไม่ว่าจะเป็นโซนห้วยขวางหรือโซนเยาวราชก็ตามแต่จะมีชาวจีนมาซื้อตึกแถวรวมถึงคอนโดหลังจากนั้นก็เปิดขายในราคาที่ค่อนข้างสูง

เนื่องจากว่าตอนซื้อนั้นคนจีนก็ซื้อตึกแถวในราคาสูงนั่นเองจะเห็นได้จากในอดีตนั้นค่าเช่าตึกแถวต่อเดือนนั้นจะอยู่ที่เดือนละเพียงแค่ 15,000 บาท

แต่เมื่อนักลงทุนชาวจีนมาทำการซื้อตึกแถวและมีการปล่อยให้เช่าราคาตึกแถวนั้นกับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันนั้นถ้าหากเป็นแหล่งเศรษฐกิจอย่างเช่นสำเพ็งหรือเยาวราชค่าเช่าต่อเดือนของห้องเช่าหรืออาคารพาณิชย์ตึกแถวนั้นจะอยู่ที่ 500,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว

หรือถ้าหากอยู่แถวย่านพระราม 9 หรือเขตห้วยขวางนั้นราคาเช่าต่อเดือนตอนนี้ก็จะตกอยู่ที่ประมาณ 70,000-100,000 บาทนั่นเอง

ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าราคาค่าเช่าอาคารพาณิชย์ต่างๆบริเวณเศรษฐกิจทั้งหมดในกรุงเทพฯก็อาจจะกลายเป็น 3 แสนถึง 5 แสนบาทได้เลยทีเดียว ดังนั้นด้วยยอดราคาค่าเช่าที่สูงแบบนี้ทำให้คนไทยนั้นไม่มีเงินทุนมากพอที่จะมีการเช่าตึกแถวแถวที่เป็นแหล่งการค้าได้ 

ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้นักธุรกิจชาวจีนมาทำการเช่าตึกแถวและมีการเปิดธุรกิจเป็นของตนเองไม่ว่าจะเป็นการเช่าอาคารพาณิชย์เพื่อเปิดเป็นร้านอาหารหรือเปิดเป็นร้านค้าก็ตามและเชื่อว่าถ้าหากว่ายังเป็นแบบนี้ต่อไปอนาคตไม่น่าจะเกิน 10 ปีนี้เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่

ในกรุงเทพมหานครน่าจะเป็นคนจีนเกือบทั้งหมดและคนไทยนั้นก็จะไม่มีร้านค้าเป็นของตนเองไม่สามารถที่จะเช่าตึกแถวหรืออาคารพาณิชย์ย่านการค้าที่สำคัญได้และบริเวณย่านการค้าที่สำคัญนี้ก็จะกลายเป็นสถานที่ที่คนจีนจะเข้ามาอาศัยอยู่และกลืนกลิ่นประเทศไทยและนี่คือผลกระทบอย่างยิ่งใหญ่ที่คนไทยจะได้รับหากยังคงมีการปล่อยให้คนจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยนั่นเอง 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    ufabet

การพัฒนาเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง

เอกลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจขนส่งของคุณจากคู่แข่ง และสร้างฐานลูกค้าที่ภักดี เรามาสำรวจองค์ประกอบสำคัญบางประการที่มีส่วนทำให้เกิดเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่งกันดีกว่า ความสำคัญของข้อเสนอการขายที่ไม่ซ้ำใคร

ขั้นตอนแรกในการพัฒนาเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่งคือการกำหนดข้อเสนอการขายที่เป็นเอกลักษณ์ (USP) USP ของคุณคือสิ่งที่ทำให้ธุรกิจขนส่งของคุณแตกต่างจากธุรกิจอื่น

ในอุตสาหกรรม อาจเป็นการบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม ข้อเสนอบริการพิเศษ หรือความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืน สื่อสาร USP ของคุณอย่างชัดเจนในเอกสารทางการตลาดทั้งหมดของคุณ และใช้เป็นแนวทางในการส่งข้อความถึงแบรนด์ของคุณ

โลโก้ที่ดึงดูดสายตาและน่าจดจำ ผสมผสานกับสโลแกนที่ดึงดูดใจ สามารถปรับปรุงเอกลักษณ์ของแบรนด์ของคุณได้อย่างมาก และสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับผู้ชมของคุณ ลงทุนในบริการออกแบบอย่างมืออาชีพเพื่อสร้างโลโก้ที่สะท้อนถึงคุณค่าของแบรนด์และดึงดูดตลาดเป้าหมายของคุณ สโลแกนของคุณควรสื่อถึงแก่นแท้ของธุรกิจขนส่งของคุณในรูปแบบที่กระชับและน่าจดจำ การใช้กลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ

เมื่อคุณมีความเข้าใจอย่างมั่นคงเกี่ยวกับภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมการขนส่ง กำหนดเป้าหมายของคุณ และพัฒนาเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่งแล้ว ก็ถึงเวลาใช้กลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพซึ่งจะดึงดูด มีส่วนร่วม และเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายของคุณ

ใช้ประโยชน์จากการตลาดดิจิทัล การตลาดดิจิทัลมอบโอกาสมากมายสำหรับธุรกิจขนส่งในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ใช้กลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (SEO) เพื่อปรับปรุงการแสดงผลเว็บไซต์ของคุณในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา ลงทุนในแคมเปญโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก

เพื่อดึงดูดปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อมีส่วนร่วมกับผู้ชมของคุณและสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ แคมเปญการตลาดผ่านอีเมลยังมีประสิทธิภาพในการรักษาลูกค้าเป้าหมายและกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงอีกด้วย

การใช้วิธีทางการตลาดแบบเดิมๆ แม้ว่าการตลาดดิจิทัลจะมีความสำคัญในโลกที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ควรมองข้ามวิธีการตลาดแบบเดิมๆ พิจารณาใช้โฆษณาสิ่งพิมพ์ เช่น โบรชัวร์หรือใบปลิว เพื่อเข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าในพื้นที่ของคุณ การสนับสนุนกิจกรรมในท้องถิ่นหรือการประชุมอุตสาหกรรมยังช่วยเพิ่มการจดจำแบรนด์ และสร้างธุรกิจการขนส่งของคุณในฐานะผู้เล่นที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรม

การวัดความสำเร็จทางการตลาด การวัดความสำเร็จของการทำการตลาดเป็นสิ่งสำคัญในการระบุสิ่งที่ได้ผลและสิ่งใดที่ต้องปรับปรุง ด้วยการวิเคราะห์ตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพหลัก (KPI) คุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าและทำการตัดสินใจโดยอาศัยข้อมูลเพื่อปรับกลยุทธ์การตลาดของคุณให้เหมาะสม ตัวชี้วัดผลการดำเนินงานที่สำคัญสำหรับธุรกิจขนส่ง แน่นอนว่า KPI

หลักบางประการที่คุณอาจพิจารณาติดตาม ได้แก่ ต้นทุนการได้มาซึ่งลูกค้า (CAC) มูลค่าตลอดช่วงชีวิตของลูกค้า (CLTV) อัตราคอนเวอร์ชัน การเข้าชมเว็บไซต์ และการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย ตรวจสอบตัวชี้วัดเหล่านี้เป็นประจำและทำการปรับเปลี่ยนตามความจำเป็นเพื่อเพิ่ม ROI ทางการตลาดของคุณให้สูงสุด

การปรับกลยุทธ์ของคุณตามผลลัพธ์ จากการวิเคราะห์ผลลัพธ์ทางการตลาดของคุณ ให้เตรียมพร้อมที่จะปรับกลยุทธ์ของคุณให้เหมาะสม หากยุทธวิธีบางอย่างไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ให้พิจารณาสำรวจแนวทางหรือช่องทางใหม่ๆ การทดสอบและเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดของคุณอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจขนส่งของคุณจะยังคงแข่งขันและเติบโตต่อไปได้ การสร้างกลยุทธ์การตลาดที่ประสบความสำเร็จสำหรับธุรกิจขนส่งของคุณต้องมีการวางแผน การวิจัย และการดำเนินการอย่างรอบคอบ

ด้วยการทำความเข้าใจภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมการขนส่ง การกำหนดเป้าหมาย การพัฒนาเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และการใช้กลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ คุณสามารถวางตำแหน่งธุรกิจของคุณเพื่อความสำเร็จในตลาดที่มีการแข่งขันสูงนี้ได้ อย่าลืมวัดและวิเคราะห์ผลลัพธ์ทางการตลาดของคุณเป็นประจำ โดยทำการปรับเปลี่ยนตามความจำเป็นเพื่อก้าวนำหน้าเกม ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่ดำเนินการอย่างดี ธุรกิจขนส่งของคุณจะประสบความสำเร็จและดึงดูดฐานลูกค้าที่กำลังเติบโต

 

สนับสนุนโดย    ufabet

เงินกู้โควิด 5แสนล้าน ใช้เกือบหมดแล้ว ส่วนใหญ่เบิกจ่ายลงเศรษฐกิจ 

       เนื่องจากประเทศไทยมีปัญหาด้านเศรษฐกิจมายาวนานอยู่หลายปีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจที่ซบเซาในช่วงของการระบาดของไวรัสโควิตเมื่อช่วงประมาณ 3 ปีที่ผ่านมาส่งผลให้เงินในกระทรวงการคลังนั้นลดลงเรื่อยๆดังนั้นทางด้านรัฐบาลจึงได้มีการทำการกู้ยืมเงินจากประเทศญี่ปุ่นมาไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉินโดยเรียกเงินดังกล่าวว่าเงินกู้โควิดซึ่งมีการกู้มาจำนวนทั้งสิ้น 5 แสนล้านบาท   

        

          ล่าสุดมีการเปิดเผยออกมาจากทางกระทรวงการคลังว่าปัจจุบันเงินกู้ที่มีการกู้มาใช้ในการแก้ไขปัญหาเรื่องของโควิตนั้นมีเงินเหลืออยู่ที่ประมาณเพียงแค่ 37,000 ล้านบาทเพียงเท่านั้น

ซึ่งเงินดังกล่าวนั้นก็มีการเสนอของบประมาณเอาไปใช้จ่ายทำให้สถานการณ์โดยรวมจริงๆแล้วเงินจำนวน 5 แสนล้านบาทที่ทางกระทรวงการคลังกู้มาเพื่อใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินมีการใช้เงินที่กู้ท่่กู้มากเต็มวงเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

         อย่างไรก็ตามทางด้านกระทรวงการคลังได้มีการชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องของเงิน 5แสนล้านบาทว่ามีการนำไปช่วยเหลือเรื่องของค่ารักษาพยาบาลเกี่ยวกับไวรัสโควิคประมาณ 20,000 ล้านบาท     ในขณะเดียวกันก็ต้องนำเงินส่วนหนึ่งจากเงินกู้ทั้งหมดนั้นไปเป็นค่าตอบแทนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่เข้ามาดูแลรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิช- ซึ่งก็ได้แก่พยาบาลและคณะแพทย์ต่างๆ  ufabet   โดยงบประมาณดังกล่าวนั้นมีการเบิกจ่ายไปอยู่ที่ประมาณหมื่นล้านบาทนั้นเอง 

        นอกจากนี้ยังมีหลายหน่วยงานที่มีการส่งเรื่องเข้ามาทำการขอวงเงิน    สำหรับเอาไปเบิกจ่ายซึ่งทางด้านคณะรัฐมนตรีเองก็ต้องมีการพิจารณากลั่นกรองเกี่ยวกับวงเงินที่มีการเสนอเข้ามาขอไปใช้จ่ายโดยพยายามที่จะให้เบิกจ่ายตามการใช้งานจริงและเป็นกรณีเร่งด่วนนอกจากนี้ยังมีการแยกเงินสำรองเอาไว้บางส่วนเพื่อใช้ในปี 2566 และเอาไว้ใช้จ่ายกรณีฉุกเฉินนั่นเอง 

           อย่างไรก็ตามทางด้านกระทรวงการคลังออกมายืนยันว่าเงินกู้ พ.ร.ก. ที่มีการขอกู้ออกมาจำนวน 5แสนล้านบาทนั้นจากการที่มีการอนุมัติให้นำไปใช้จ่ายบางส่วนและมีการจองสำรองเอาไว้กับหน่วยงาน

แต่ละหน่วยงานเพื่อเอาไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉินนั้นสถานการณ์โดยรวมตอนนี้เงินไม่เหลือแล้วมีการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว  ซึ่งหน่วยงานบางหน่วยงานก็ได้มีการมาเบิกเงินแล้วส่วนบางหน่วยงานที่มีการขออนุมัติเอาไว้และได้รับการอนุมัติแต่ยังไม่มีการมาเบิกจ่ายทางด้านกระทรวงการคลังก็จะมีการเร่งติดตามให้มาทำการเบิกเงินเพื่อเอาไปแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคม ปีพ.ศ. 2565 นี้ 

              อย่างไรก็ตามทางด้านกระทรวงการคลังยืนยันว่าเงินกู้ 5 แสนล้านบาทที่รัฐบาลได้มีการกู้เงินนั้นนำมาขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจซึ่งประชาชนสามารถตรวจสอบได้ว่าในช่วงประมาณ 4 เดือนสุดท้ายภาพโดยรวมของเศรษฐกิจของไทยจะต้องดีขึ้นเนื่องจากว่าได้รับเงินที่ทางรัฐบาลอนุมัตินำไปใช้จ่ายในการกระตุ้นแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจทำให้ภาพเศรษฐกิจโดยรวมของไทยค่อนข้างดีขึ้นตามลำดับนั่นเอง