วิกฤตของประเทศเมียนมาร์ นับตั้งแต่ประเทศเมียนมาร์เกิดมีการประท้วงกันเกิดขึ้นมีหลายหน่วยงานมากที่ออกมาวิเคราะห์ว่าการประท้วงในพม่าในครั้งนี้แม้ว่าประเทศพม่าจะเกิดวิกฤติครั้งยิ่งใหญ่แต่กลับเป็นผลดีต่อนักธุรกิจของไทยและการส่งออกของไทยที่จะสามารถส่งสินค้าไปขายในประเทศพม่าได้เนื่องจากว่าเมื่อพม่ามีการประท้วงบริษัทต่างๆจึงต้องปิดตัวลงเพื่อให้เราพนักงานนั้นออกไปประท้วงหรือแม้แต่ถ้าทางบริษัทไม่ปิดกิจการแต่พนักงานก็จะออกไปประท้วงเอง

         ดังนั้นหลายหน่วยงานจึงมองว่านี่คือโอกาสอันดีของการค้าของไทยที่จะสามารถนำสินค้าไปขายในประเทศพม่าได้  แต่การขายสินค้าในประเทศพม่านั้นเราไม่สามารถส่งสินค้าไปขายในขณะที่คนพม่ากำลังก่อการจลาจลหรือก่อการประท้วงกันได้เพราะเชื่อถือว่าในขณะที่พวกเขาอาจจะเป็นอาหารก็จริงเราก็ไม่สามารถนำของไปขายได้ในทันทีเพราะการขายของในประเทศพม่านั้นจะต้องมีการติดต่อหน่วยงานของรัฐบาลเพื่อนำสินค้าเข้าไปขายเป็นการขออนุญาต

          ดังนั้นเราจึงไม่สามารถนำสินค้าเข้าไปขายในประเทศพม่าได้

โดยตรงยกเว้นว่าบริษัทของไทยมีการส่งสินค้าไปขายกับประเทศพม่าอยู่แล้วยังสามารถส่งไปขายได้ตามปกตินั่นเองนี่คือวิกฤตโอกาสที่ดีของพ่อค้าไทยที่จะได้ค้าขายสินค้าในปริมาณมากในประเทศเมียนมาร์ในช่วงเวลานี้แต่ถ้าหากว่าเป็นพ่อค้าชุดใหม่ที่ยังไม่เคยทำการค้าขายกับคนพม่าเลยนั้นรับรองได้ว่ายังไงคุณก็ไม่สามารถเข้าไปค้าขายได้อย่างแน่นอน

           ดังนั้นสถานที่ที่คุณจะสามารถค้าขายในประเทศพม่าได้

นั้นก็คือตรงบริเวณชายแดนนั่นเองเพราะตรงบริเวณนี้หากชาวเมียนมาร์ต้องการอยากจะซื้อสินค้าของไทยนั้นสามารถข้ามเขตชายแดนมาซื้อสินค้าแล้วนำกลับไปขายในประเทศของตนเองได้ดังนั้นโอกาสของการค้าไทยจึงมีตรงบริเวณเขตชายแดนนั่นเอง

        แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าถ้าหากใครได้ติดตามข่าวสารสถานการณ์ของประเทศพม่าในปัจจุบันนี้  และได้เห็นภาพเคลื่อนไหวใน YouTube จะเห็นได้ว่าในประเทศเมียนมาร์นี้กำลังมีความรุนแรงเป็นอย่างมากบรรดาทหารทั้งหลายนั้นเข้าไปยิงคนแม้แต่ในงานศพหรือแม้แต่ในร้านอาหารดังนั้นถ้าหากเราเป็นนักธุรกิจเราคงไม่อยากจะไปลงทุนค้าขายในประเทศพม่าในช่วงที่เกิดวิกฤตการเช่นนี้อย่างแน่นอน

           เพราะมีความเสี่ยงมากที่สถานการณ์จะรุนแรงมากขึ้นและเมื่อเช้าพม่าได้มีงานทำเพราะต้องออกมาประท้วงก็อาจจะทำให้พวกเขานั้นออกมาปล้นสดมภ์อาหารก็เป็นไปได้เช่นเดียวกันดังนั้นจากที่หลายฝ่ายมองว่ามันคือโอกาสทางการค้าของไทยนั้นถ้าหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้มันคือสถานการณ์ที่เป็นการเอื้ออำนวยโอกาสให้กับการค้าของไทยจริงหรือ?

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  ทางเข้า ufabet ภาษาไทย

          มีรายงานข่าวเข้ามาว่าตั้งแต่วันที่ 22 เดือนเมษายนจนถึงวันที่ 30 เดือนเมษายนปีพศ. 2563 กระทรวงพาณิชย์และบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายข้าวสารที่บรรจุถุงขายมีทั้งหมด 18 ยี่ห้อด้วยกันจะมีการลดราคาข้าวสารให้กับประชาชนเพื่อช่วยเหลือสถานการณ์เศรษฐกิจในครัวเรือนของประชาชนให้ได้มีข้าวสารกินในช่วงที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า

อยู่ในขณะนี้โดยข้าวสาร 18 ยี่ห้อนี้จะสามารถลดได้สูงสุดถึง 50% ด้วยกันซึ่งประชาชนจะต้องมีการตรวจสอบว่ามีข้าวสารยี่ห้ออะไรบ้างที่ร่วมโครงการโดยโครงการนี้ออกมาเป็นโครงการพาณิชย์ลดราคาข้าวเพื่อช่วยเหลือประชาชนซึ่งได้มีการแถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 22 เมษายน

โดยมีการออกมาแถลงจากสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ถึงกิจกรรมดีๆที่ออกมาช่วยเหลือสังคมในครั้งนี้โดยทางรัฐบาลได้มีการขอความร่วมมือกับทางบริษัทที่ผลิตข้าวขายให้ช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชนในช่วงนี้ด้วยการลดราคาข้าวสารลงเพื่อที่ชาวบ้านจะสามารถนำเงินที่มีอยู่มาซื้อข้าวสารในราคาพิเศษได้เพราะตอนนี้อย่างที่เราทราบกันดีอยู่ว่าสถานการณ์การเงินของประชาชนในประเทศไทย

ตอนนี้กำลังประสบปัญหาอย่างมากดังนั้นสิ่งที่จะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ก็คือการลดราคาสินค้าต่างๆซึ่ง 1 ในสินค้าที่ประชาชนต้องการให้ลดมากที่สุดนั่นก็คงหนีไม่พ้นข้าวสารเพราะเป็นสินค้าจำเป็นที่ประชาชนทุกคนจะต้องกินในทุกๆวันซึ่งถ้าหากใครอยากรู้ว่ามีข้าวสารยี่ห้อไหนบ้างที่มีส่วนลดก็สามารถดูได้ตามสื่อออนไลน์ต่างๆโดยจะมีการระบุเอาไว้ทั้งหมด 18 ยี่ห้อด้วยกัน 

           อันที่จริงแล้วกิจกรรมดีๆแบบนี้ควรจะมีออกมาช่วยเหลือประชาชนนานแล้วไม่ควรรอสักเช้ามาจนถึงขณะที่ตอนนี้ประชาชนไม่มีเงินที่จะออกมาซื้อข้าวกินก็ถึงแม้ว่าคุณจะจัดกิจกรรมลดราคาข้าวสารแต่ในเมื่อประชาชนไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว

จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อข้าวสารตามกิจกรรมที่เรารัฐบาลจัดออกมาซึ่งเราจะเห็นได้ว่ากิจกรรมต่างๆที่รัฐบาลจัดออกมานั้นออกมาช่วยเหลือประชาชนได้ล่าช้ามากออกมาเร็วกว่านี้ประชาชนก็ยังพอที่จะมีเงินเก็บนำมาซื้อข้าวสารกินได้แต่ตอนนี้ถ้าดูตามข่าวทีวีหรือสื่อต่างๆจะเห็นได้ว่าประชาชนหลายคนมีเงินติดตัวไม่ถึงหลักพันบาท

ยิ่งประชาชนที่อยู่ห่างไกลจากกรุงเทพฯหรือแม้แต่พวกหาเช้ากินค่ำที่อยู่ในกรุงเทพฯแทบจะไม่มีเงินติดตัวกันแล้วดังนั้นถึงแม้จะมีโครงการลดราคาข้าวสารออกมาก็เรียกได้ว่าไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ในช่วงนี้เพราะประชาชนไม่มีเงินพอที่จะไปซื้อข้าวสารลดราคาแล้วมาช่วยเหลือตอนนี้อาจจะไม่ค่อยทันการณ์สักเท่าไหร่

สนับสนุนโดย   ทางเข้า ufabet ภาษาไทย