นายใหญ่ของบริษัทแสนสิริ  นายเศรษฐา  เสนอให้รัฐบาลช่วยเหลือผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นระดับล่างระดับกลางระดับเล็กด้วยการปรับลดดอกเบี้ยให้ต่ำลงอีกทั้งยังมีการเสนอให้รัฐบาลยกเลิก ltv   เชื่อว่าถ้าหากรัฐบาลประกาศแบบนี้ออกไปจะสามารถทำให้ประชาชนมีเงินในการซื้อมากินขึ้นเพราะการที่มีการเสนอเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยและยกเลิก ltv นั้นจะเป็นการเพิ่มเงินให้กับประชาชน

       จากข้อมูลด้านเศรษฐกิจที่ผ่านมาทำให้นายเศรษฐาเชื่อว่า  สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยที่กำลังเผชิญกันอยู่ในขณะนี้ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะไม่ได้ย่ำแย่เท่ากับช่วงเศรษฐกิจของต้มยำกุ้งหรือปัญหาเศรษฐกิจเมื่อ 20 ปีก่อนที่ประเทศไทยเคยเจอมาแล้วครั้งหนึ่งแต่อย่างไรก็ตามแต่สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีมากกว่าเมื่อ 20 ปีที่แล้วเพราะในขณะนี้ GDP ของประเทศไทยนั้นติดลบเกือบจะถึงลบ 7% แล้ว  และถ้าหากไม่พยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วกว่านี้ปล่อยทิ้งไว้นานก็จะยิ่งแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจได้ยาก

        นาย  เศรษฐายังระบุอีกด้วยว่า ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ sme หรือแม้แต่ธุรกิจที่เขาดูแลโดยตรงอย่างอสังหาริมทรัพย์เองตอนนี้ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นเดียวกันเพราะเมื่อเศรษฐกิจไม่ดีกำลังซื้อของประชาชนก็ลดลง  เมื่อธุรกิจไม่ดีทำให้คนตกงาน  แต่เจ้าของธุรกิจยังต้องเจอกับปัญหาเกี่ยวกับการเรียกเก็บดอกเบี้ยสูงหรือแม้แต่มาตรการ ltv     ซึ่งมาตรการ ltv นี้มีผลต่อกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์โดยตรง

        ซึ่งในเศรษฐามองว่าในขณะนี้บริษัทอสังหาริมทรัพย์นั้นไม่สามารถที่จะขายกิจการของตนเองได้นั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีมาตรการ ltvออกมาเพื่อควบคุม กลุ่มตัวแทนบริษัทอสังหาริมทรัพย์เพราะตอนนี้ไม่มีบริษัทไหนที่จะสามารถขายบ้านออกได้อยู่แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านหรือแม้แต่คอนโดที่ราคาแพงและที่สำคัญในขณะนี้บริษัทขนาดเล็กที่ขายบ้านและคอนโดนั้นไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ 

      ดังนั้นเขาจะแนะนำว่าควรจะมีการยกเลิกเรื่องของการลดการเรียกเก็บภาษีเพื่อให้ธุรกิจนี้ยังสามารถไปต่อได้เพราะถ้าหากธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้เศรษฐกิจก็ยังสามารถที่จะดำเนินการต่อไปได้เช่นเดียวกันก็อย่าลืมว่าเวลาที่สร้างบ้านหรือคอนโดนั้นจะต้องมีการธุรกิจอื่นด้วยเช่นเดียวกัน

ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของบริษัทที่ขายสีมัดกับบริษัทที่ขายปูนซีเมนต์ขายเหล็กรวมถึงบริษัทขายอุปกรณ์ทำครัวและอุปกรณ์ไฟฟ้ารวมถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆพวกนี้ก็จะสามารถขายสินค้าได้ถ้าหากว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์สามารถที่จะขายบ้านออกไปได้

      นั่นก็เพราะว่าการสร้างบ้านใหม่จำเป็นต้องใช้สิ่งของเหล่านี้ในการสร้างบ้านและการตกแต่งบ้านเพื่อออกจำหน่ายดังนั้นถ้าหากมีการช่วยเหลือบริษัทในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้เชื่อว่าธุรกิจอื่นๆก็ยังสามารถดำเนินการต่อไปได้เช่นเดียวกัน

สนับสนุนโดย.    เว็บพนันบอล ดีที่สุด