Apple เล็งจ่ายโบนัสให้กับพนักงานสูงสุด 1000 ดอลลาร์

Apple เล็งจ่ายโบนัส หากพูดถึงปัญหาเศรษฐกิจในช่วงนี้อย่างที่เรารู้กันดีว่าส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมากดังนั้นในช่วงปลายปีจะมีหลายบริษัทมากที่อาจจะไม่มีการให้เงินโบนัสกับลูกจ้างของตนเองเหมือนกับปีก่อนๆที่ผ่านมาอย่างไรก็ตามเมื่อมาดูทางบริษัท Apple

ซึ่งเป็นบริษัทที่เพิ่งจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ไปได้ไม่นานนะคะซึ่งในช่วง covid-19 นะคะก็ต้องยอมรับว่าก็มีผลกระทบต่อ Apple เหมือนกัน

      แต่ล่าสุดก็ถือว่าเป็นข่าวดีก็แล้วกันเพราะว่าเขาเตรียมจะจ่ายโบนัสนะคะให้กับพนักงานสูงสุดอยากอยู่ที่ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐนะคะคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณสัก 3 หมื่นกว่าบาทค่ะ โดยจะมีการเริ่มจ่ายกันในเดือนหน้าแล้วล่ะค่ะล่าสุดนั้นสำนักข่าว Bloomberg ก็มีการออกมารายงานนะคะว่าแอปเปิ้ลยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐเตรียมจะจ่ายโบนัสให้กับพนักงานในเดือนหน้าค่ะ

จึงเป็นการจ่ายเป็นเงินก้อนแบบรอบเดียวนะคะโบนัสนี้จะจ่ายให้กับพนักงานขายนะของ Apple ค่ะสูงสุดของพนักงานขายก็คือได้ 1000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 3หมื่่นสามพันกว่าบาท  ก็ลองเอาค่าเงินของเราไปคูณดูนะคะ

        สำหรับพนักงานที่เข้างานก่อนวันที่ 31 มีนาคมนะคะชวนพนักงานที่เข้างานหลังจากนั้นก็ได้โบนัสเหมือนกันค่ะแต่ว่าก็จะได้น้อยกว่านะคะได้ 500 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณสัก 16,000 กว่าบาทนะคะส่วนพนักงานใหม่ที่เข้าช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปีนี้ก็จะได้โบนัสเหมือนกัน 200 ดอลลาร์คิดเป็นเงินไทย

ก็ประมาณสัก 6,000 กว่าบาทนะคะเงินโบนัสจะแจกให้กับพนักงานในแผนก Apple Care แล้วก็พนักงานขายออนไลน์ด้วยนะคะ เช่นการจ่ายโบนัสให้กับพนักงานนั้นก็ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่เขาบอกว่าไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก

        จากความพยายามของ Apple ค่ะที่จะทำให้การดำเนินการให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้งนึงหลังจากต้องเป็นสาขาในช่วงการเกิดระบาดของ covid 19 นะคะค่ะค่ะ  สล็อต ufabet เว็บตรง   พี่ออกมาแต่ตัวแอปเปิ้ลไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆนะคะแล้วก็เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายค้าปลีกของ Apple นั้นก็ให้สัมภาษณ์กับทางรอยเตอร์  นะคะบอกว่า Apple จะขยายธุรกิจค้าปลีก

โดยผสมผสานกลยุทธ์ที่พัฒนาขึ้นทั้งก่อนแล้วก็ระวังการระบาดของ covid ซึ่งเขาเชื่อว่าจะทำให้ร้านค้าของ Apple นั้นได้รับความนิยมมากคือกันเองนะคะ พนักงานที่คอยให้บริการลูกค้านะคะก็อาจจะเป็นส่วนที่ถูกกระทบจากโควิด 19 นะคะต้องมีการปิดสาขากันไปแต่ว่าการที่ทางบริษัทก็ยังยินดีนะคะจะมีการจ่ายโบนัสให้แบบนี้ก็ถือว่าเป็นขวัญกำลังใจให้กับพนักงานท่านเองนะคะ 

ไทยและกัมพูชาร่วมส่งเสริมการค้าระหว่างกัน

    ไทยและกัมพูชา  สำหรับเศรษฐกิจในประเทศนั้น ในขณะนี้มีการหารือการกลับทางรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทยนะคะกับทางด้านของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาค่ะมีข้อเสนอระหว่างการอยู่หลายเรื่องนะคะในสิ่งที่จะเชื่อเรื่องของการค้าระหว่างไทยกับกัมพูชาเพิ่มมากขึ้นนะคะ  

       สำหรีับการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ที่เรากำลังพูดถึงกันนี้ นั่นเพราะว่าคุณจุรินทร์ลักษณวิศิษฏ์นะคะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ต้อนรับ ดร. ซก  ซกรัฐญาค่ะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งราชอาณาจักรกัมพูชามาเข้าเยี่ยมคารวะนะคะที่กระทรวงพาณิชย์ค่ะหลังจากที่เข้าพบคุณจรินทร์แล้วนะคะก็มีการพูดคุยกันหารือการประมาณ 2-3 ประเด็นสำคัญ

       โดยประเด็นที่ฝั่งกัมพูชาอยากเห็นก็คือเขาต้องการให้ฝั่งไทยช่วยเร่งรัดในการแก้ปัญหาการจราจรหน้าด่านที่ฝั่งไทยค่ะเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสินค้าจากไทยข้ามไปกัมพูชาได้เร็ว แล้วก็สะดวกขึ้นโดยเฉพาะในเรื่องของระบบการจัดการทำเอกสารที่กัมพูชาเห็นว่ามันอาจจะสามารถลดลงไปได้เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกนะคะต้องการให้ทายเร่งรัดการเปิดด่านหนองเอี่ยน ค่ะ

เพื่อถ่ายเทการจราจรอีกช่องทางหนึ่งให้สะดวกขึ้นแล้วก็ขอให้ฝั่งไทยอำนวยความสะดวกเรื่องการนำเข้าส่งออกสินค้าเกษตรระหว่างกันให้สะดวกขึ้นโดยเฉพาะข้อตกลงในมาตรการด้านสุขภาพสุขอนามัยระหว่างการนั่นเองนะคะ

          สำหรับประเด็นที่หารือกันนะคะโดยเฉพาะเรื่องการเปิดด่านหนองเอี่ยนนั้นมีความเห็นตรงกันค่ะว่าพร้อมจะผลักดันให้เห็นเป็นรูปประธรรมโดยเร็วนอกจากนี้นะก็มีการพูดคุยกันเพื่อที่จะให้ทางกัมพูชานั้นประชาสัมพันธ์สินค้าไทยค่ะที่ไปโพสต์ขายอยู่ในกลาง thai.com นะของกัมพูชานะคะประมาณ 220 กว่ารายการให้ชาวกัมพูชาได้รับทราบเพิ่มเติมแล้วก็เห็นชอบต้องการให้มีการประชุม jpg นะคะเพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าระหว่างไทยกับกัมพูชามากขึ้น

         คือที่ผ่านมาก็มีการคุยกันนะคะแต่ว่าบังเอิญติด covid ก่อนนะคะคือ ติดโควิด-19 ระบาดนั่นเองก็เลยทำให้ดูเหมือนกันคุยกันก็อาจจะน้อยลงไปก็หวังว่าจะมีการประชุมกันได้ในต้นปี 2565 ค่ะ เพื่อช่วยเพิ่มการค้าระหว่างการให้มากขึ้นเพราะว่ากัมพูชาก็ถือว่าเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 6 ของไทยในอาเซียนแล้วก็อันดับที่ 26 ของโลกจากประเทศไทยนะคะตัวเลข 8 เดือนค่ะ

ไทยสามารถส่งออกไปกัมพูชาได้หนึ่งแสนสี่หมื่นหนึ่งพันล้านบาทขยายตัว 18 เปอร์เซ็นต์และไทยได้ดุลการค้าหลายร้อยล้านบาทสินค้าส่งออกของไทยที่ไปกัมพูชาเช่นน้ำมันสำเร็จรูป    น้ำตาลทราย   ยานยนต์  และเคมีภัณฑ์ ทั้งหมดนี้มีการขยายตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นทั้งหมด

 

สนับสนุนโดย.    ufabet

หนุ่มเดลิเวอรี่ แอบกินอาหารของลูกค้า ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของลูกค้าลดลง คนสั่งอาหาร เดลิเวอร์รี่น้อยลง

        หนุ่มเดลิเวอรี่ แอบกินอาหารของลูกค้า  ในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโควิทเช่นนี้ประเทศใช้บริการการซื้ออาหารโดยให้พนักงานจัดส่งให้ที่บ้านเพราะต้องการที่จะลดความเสี่ยงในการออกนอกบ้านเป็นการลดความเสี่ยงที่อาจจะติดเชื้อไวรัสโคโรนาได้นั่นเองอย่างไรก็ตามที่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีการเผยแพร่คลิปเต้นถูกโพสต์ลงใน Application tiktok เป็นคลิปที่พนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่นั้นได้มีการนำอาหารของลูกค้ามานั่งกินด้วย

      ในคลิปจะเห็นได้ว่าพนักงานชายคนดังกล่าวได้มีการเปิดกล่องอาหารของลูกค้าแล้วนำออกมากินบางส่วนหลังจากนั้นก็มีการปิดกล่องอาหารของลูกค้าเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากนี้ยังได้มีการเตรียมแม็กหนีบกระดาษกระดาษไว้เหมือนเดิมเหมือนกับว่าอาหารของลูกค้านั้นไม่ได้เคยถูกแกะมาก่อน

       อย่างไรก็ตามคนในโลกออนไลน์ที่เห็นคลิปใน Application tiktok ต่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักมองว่าการกระทำของพนักงานเดลิเวอรี่ชายคนดังกล่าวนั้นไม่น่าจะเป็นการกระทำครั้งแรกแต่น่าจะเคยแอบกินอาหารของลูกค้ามาแล้วหลายครั้งจึงได้มีการเตรียมอุปกรณ์พกติดตัวมาด้วยทั้งกล่องข้าวที่เอาไว้สำหรับแบ่งอาหารไปกินและแม็กสำหรับหนีบ กระดาษ 

       เมื่อคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไปเป็นวงกว้าง ทางด้านผู้คนส่วนใหญ่ก็ได้มีการเรียกร้องเรียนไปถึงผู้บริหารของ Application ที่พนักงานชายคนดังกล่าวทำงานอยู่โดยมีการระบุว่าบริษัทเดลิเวอรี่ที่พนักงานชายคนดังกล่าวทำงานอยู่นั้นเป็นของ Uber eats  ทั้งนี้ทางผู้บริหารของ Uber eats   จึงได้มีการบอกช่องทางการติดต่อของพนักงานคนดังกล่าวไม่ให้สามารถเข้ามาทำงานใน Application ของ Uber eats ได้อีกต่อไปเนื่องจากว่าผู้บริหารเองเมื่อเห็นคลิปดังกล่าวแล้วก็ไม่สามารถยอมรับกับพฤติกรรมของพนักงานได้เช่นเดียวกัน 

     อย่างไรก็ตามกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ของคลิปดังกล่าวที่พนักงานแอบกินอาหารของลูกค้านั้นเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นมาเพราะว่ามีลูกค้าหลายคนมองว่าพฤติกรรมแบบนี้อาจจะไม่ใช่เพียงแค่ชายคนนี้เท่านั้นที่ทำพฤติกรรมแบบนี้ซึ่งอาจจะมีพนักงานเดลิเวอรี่คนอื่นๆนั้นทำพฤติกรรมแบบเดียวกันนี้ก็ได้เพียงแต่ว่าไม่มีหลักฐานว่ามีพนักงานคนไหนทำพฤติกรรมแอบกินอาหารของลูกค้าบ้างทำให้หลายคนนั้นเกิดความไม่เชื่อมั่นถึงความสะอาดและความปลอดภัยของอาหารที่พวกเขามีการสั่งซื้อซึ่งส่งผลทำให้มีประชาชนหลายคนมีแนวความคิดที่จะเลิกสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่มาทานที่บ้าน 

   แน่นอนว่าจากคลิปวีดีโอการกระทำความผิดของพนักงานเดลิเวอรี่เพียงแค่คนเดียวเท่านั้นส่งผลอย่างใหญ่หลวงต่อธุรกิจเดลิเวอรี่เพราะมันส่งผลต่อความมั่นใจของลูกค้าเกี่ยวกับพฤติกรรมของพนักงาน และมันทำให้พนักงานเดลิเวอรี่คนอื่นได้รับความเดือดร้อนเพราะลูกค้าน้อยลงบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเดลิเวอรี่ก็จะมีลูกค้าใช้บริการลดลงส่งผลต่อการเงินของบริษัทเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย.   ufabet ฝากเงิน ออโต้

ประกาศยุติการให้บริการ ปิดตำนาน 54 ปี ที่ร้านโคคา สาขาสยามสแควร์

        ประกาศยุติการให้บริการ   เมื่อวันที่ 17 เดือนพฤษภาคม  ปีพศ 2564   ใน Facebook ของร้านอาหารสุกี้แบรนด์โคคาการออกมาเปิดเผยข้อมูลการให้บริการของร้านสุกี้สไตล์กวางตุ้ง   ซึ่งเป็นร้านสุกี้ที่มีการเปิดเก่าแก่มานานกว่า 54 ปีแล้วหนุ่ยสุกี้โคคาร้านนี้อยู่ที่สาขาสยามสแควร์   ซึ่งในเฟซของร้านสุกี้โคคานี้ระบุว่าทางร้านจะเปิดให้บริการให้กับลูกค้าเป็นวันสุดท้ายนั่นก็คือวันที่ 18 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2564 

       หลังจากนั้นสุกี้แบรนด์ coca  การร้านสุกี้ทันที โดยสาเหตุที่ร้านสุกี้จำเป็นต้องปิดให้บริการทั้งที่เปิดมานานกว่า 50 ปีนั้นก็เพราะว่าในขณะนี้สาขาสยามสแควร์ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของไวรัสโควิช- เนื่องจากว่าในขณะนี้ที่สยามสแควร์ไม่มีลูกค้ามาเดินช็อปปิ้งหรือมารับประทานอาหารที่ห้างสรรพสินค้าเลยทำให้ทางสาขาไม่สามารถที่จะเปิดให้บริการต่อไปได้ดังนั้นจึงได้ขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่าสาขานั้นจะปิดให้บริการทั้งนี้ในเฟซของ Coca Restaurant ยังได้มีการติดแฮชแท็กด้วยว่าถึงแม้ว่าตำแหน่งนั้นจะอยู่กับเราไม่นานแต่ตำนานนั้นจะอยู่กับเราตลอดไป 

            อย่างไรก็ตามในเฟสของทางร้าน Coca Restaurant ยังได้มีการกล่าวขอบคุณพนักงานทุกคนที่ทนทำงานอยู่กับทางสาขาด้วยดีเสมอมาและทางสาขาเองก็ได้มีการเชิญลูกค้าให้ไปใช้บริการในวันที่ 18 พฤษภาคมนี้เป็นวันสุดท้ายซึ่งสามารถที่จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเอามาดูย้อนหลัง

เป็นความทรงจำดีๆของลูกค้าของร้าน Coca Restaurant ได้เช่นเดียวกันอย่างไรก็ตามทาง Coca Restaurant ระบุว่าสาขาจะปิดให้บริการเฉพาะที่สยามสแควร์เท่านั้นส่วนสุกี้โคคาสาขาอื่นยังคงเปิดให้บริการตามปกติ

          อย่างไรก็ตามทางร้านมีการระบุด้วยว่าถ้าหากจะไปใช้บริการในวันสุดท้ายต้องรบกวนมีการโทรไปทำการจองที่นั่งก่อนเนื่องจากว่าทางสาขาจะสามารถอนุมัติให้กับลูกค้าที่มีการโทรไปจองที่นั่งล่วงหน้าเพียงเท่านั้นหากลูกค้าท่านไหนมีการ walk in เข้าไปจะไม่สามารถใช้บริการในวันดังกล่าวได้เนื่องจากว่าทางสาขาเองก็จะต้องมีการจัดระเบียบที่นั่งให้กับลูกค้าตามมาตรการของรัฐบาลเรื่องของการคุมเข้มการระบาดของไวรัส covid นั่นเอง 

             สำหรับสุกี้โคคาและสลองนั้นเป็นร้านสุกี้ชื่อดังซึ่งเปิดมานานหลายสิบปีแล้วและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเป็นรุ่นบุกเบิกในตำนานเลยก็ว่าได้เป็นร้านขายสุกี้รุ่นแรกๆที่มาเปิดให้บริการในประเทศไทย และให้คนไทยได้รู้จักอาหารที่ชื่อว่า สุกี้ อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้ Coca Restaurant ยังมีอีกหลายสาขา ที่ประกาศปิดไปนั้นเป็นเพียงแค่สาขาเดียวเพียงเท่านั้น

 

สนับสนุนโดย.     ufabet ฝากเงิน ออโต้

พิษโควิด-19 ทำโรงพยาบาลเอกชนผลประกอบการลดลงอย่างหนัก

   พิษโควิด-19  ทำโรงพยาบาล   นับตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโควิช- ผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็พากันเดินทางไปรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลเอกชนหรือโรงพยาบาลของรัฐบาลซึ่งหลายคนมองว่าโรงพยาบาลเอกชนนั้นน่าจะได้กำไรจากการระบาดของไวรัสโควิคเป็นอย่างมากเพราะค่าใช้จ่ายในการรักษาการติดเชื้อไวรัสโควิคนั้นค่อนข้างแพงจะเห็นได้จากการที่มีบรรดาไฮโซ

หรือเหล่าดาราทั้งหลายที่ไปรักษาอาการป่วยไวรัสโควิคที่โรงพยาบาลเอกชนออกมาโพสต์เกี่ยวกับค่ารักษากันซึ่งค่ารักษาขั้นต่ำนั้นระดับ 1 ล้านบาทขึ้นไปนั่นเอง

       อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงแล้วโรงพยาบาลก็ได้รับผลกระทบไม่แตกต่างจากธุรกิจอื่นๆเลยซึ่งหลายคนมองว่าผู้ป่วยโรงพยาบาลจนไม่มีเตียงรองรับน่าจะทำให้โรงพยาบาลมีกำไรและมีรายได้เยอะมากแต่ในความเป็นจริงแล้วโรงพยาบาลเอกชนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของไวรัสโควิตนี้เพราะโรงพยาบาลเอกชนนั้นรายได้ส่วนใหญ่มาจากการที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

ที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยแล้วประสบกับปัญหาอาการป่วยต่างๆได้เข้ามารักษาอาการที่โรงพยาบาลซึ่งถือว่าเป็นรายได้หลักของโรงพยาบาลเอกชนในขณะที่ถ้าเป็นโรงพยาบาลของรัฐบาลนั้นก็จะเป็นพวกประชาชนคนไทยที่เข้าไปรักษาอาการป่วยนั่นเอง

     ซึ่งหลังจากที่มีการระบาดของไวรัสโควิช- รัฐบาลประกาศการปิดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศนักท่องเที่ยวไม่ได้เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยนอกจากจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวแล้วผลกระทบยังส่งตรงมาถึงโรงพยาบาลเอกชนอย่างมากเพราะวิกฤตในครั้งนี้โรงพยาบาลเอกชนนั้นสูญเสียรายได้ไปเยอะมาก

       ก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของไวรัส covid ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับว่าเป็นประเทศที่มีระบบการรักษาพยาบาลที่ดีที่สุดซึ่งบางเว็บไซต์ระบุให้ประเทศไทยนั้นอยู่ในอันดับ 6 ของโลกที่มีระบบการรักษาพยาบาลและระบบสาธารณสุขที่ดีบางเว็บไซต์นั้นระบบให้ประเทศไทยนั้นอยู่ในอันดับ 8

ซึ่งแน่นอนว่าในประเทศไทยนั้นติด 1 ใน 10 มาโดยตลอดทำให้เมื่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยแล้วมีอาการไม่สบายจึงเข้ารักษาอาการป่วยที่นี่โดยที่มั่นใจเกี่ยวกับเรื่องของระบบการรักษาพยาบาลของไทยนั้นเอง

          อย่างไรก็ตามในขณะนี้ถึงแม้ว่าจะมีคนเข้ารักษาการติดเชื้อไวรัสโควิตเยอะมากในโรงพยาบาลเอกชนแต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นกลุ่มผู้ประกันตนซึ่งจะได้เงินจากระบบประกันสุขภาพรวมถึงระบบข้าราชการต่างๆทำให้เอกชนนั้นขาดรายได้จากลูกค้าชาวต่างชาติเหลือเพียงรายได้ของกลุ่มลูกค้าผู้ประกันตนเท่านั้นเองซึ่งในขณะนี้รายได้ที่มาช่วยเหลือโรงพยาบาลเอกชนนั้นมาจากค่ายาและค่าเอกซเรย์เป็นหลัก 

   อย่างไรก็ตามถ้าหากประเทศไทยยังไม่เปิดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งอาจจะต้องปิดกิจการเช่นเดียวกับเจ้าของธุรกิจนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.    สล็อต ยิงปลา ฝากขั้น ต่ำ 100

หากใครที่ตอนนี้มีความสนใจในเรื่องของการสร้างแบรนด ลองอ่านบทความนี้กันดู

การสร้างแบรนด เคล็ด(ไม่)ลับ…สร้างแคมเปญยังไงให้แบรนด์ปัง! ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าในใจในยุคปัจจุบันของนักการตลาดทั้งมือใหม่และมือเก่าที่กำลังทำธุรกิจของตัวเอง หรือการทำงานสร้างแบรนด์ให้กับนายจ้าง หรือคนที่คุณกำลังอยากจะช่วยเค้าอยู่ ซึ่งอีกหนึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดที่น่าสนใจก็คือการสร้างแคมเปญนั่นเอง

แต่ถ้าหากจะให้เข้าใจกันแบบง่ายๆ และพูดกันตรงไปตรงมา สินค้าหรือแบรนด์ไหนๆ ก็ทำแคมเปญขึ้นมาได้ทั้งนั้น แต่จุดที่จะสามารถเฉือนกันมันอยู่ที่ความน่าสนใจและความแตกต่าง เพราะเราจะต้องทำให้แบรนด์ของเราเป็นที่จดจำต่อผู้บริโภคและกลุ่มเป้าหมายให้ได้ ถึงแม้ว่าชื่อแบรนด์และโลโก้ของเราจะโดดเด่นเตะตาขนาดไหน แต่ถ้ากลุ่มเป้าหมายจำเราไม่ก็จบนะ

ซึ่งในบทความนี้ เราจึงอยากสรรหากลยุทธ์และมีเคล็ดที่ไม่ลับในการสร้างแคมเปญให้เกิดการรับรู้และจดจำแบรนด์ของเรามาแนะนำ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยที่ข้อแรก!

1.ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและแข็งแรงให้กับแคมเปญ 

คิดให้รอบคอบมองให้ถี่ถ้วนก่อนว่าเราจะต้องตั้งเจตนารมณ์ของเราให้ชัดเจนด้วยการตั้งเป้าหมายและต้องวัดได้จากผลลัพธ์ที่ตั้งไว้ เพื่อให้เราเห็นผลสรุปของการทำแคมเปญว่าสำเร็จตรงตามเป้าหรือเปล่า ถ้าไม่ ก็สามารถกลับมาดูได้ว่าตรงไหนที่ทำให้ไม่เกิดผล และปรับแก้ต่อไปเพื่อปรับใช้ในครั้งหน้า

เพราะการวางแผนในที่นี้ต้องละเอียดมากๆ โดยจะมีรายละเอียดเช่น ระยะเวลาที่ใช้ในแต่ละแคมเปญ, สิ่งที่แบรนด์ต้องการจากการทำแคมเปญ, การวางกลยุทธ์หรือวิธีที่จะทำให้บรรลุเป้าหมาย เช่น โพสต์บนโซเชียลมีเดีย หรือการใช้ Influencer อะไรประมาณนี้ 

2.การ Collabs กันระหว่างแบรนด์

นี่เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่สามารถเพิ่มความสนใจได้ดีเลยทีเดียว การเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ดัง ก็คือการทำงานร่วมกับแบรนด์เพื่อเพิ่มมูลค่า และขยายการเข้าถึงผู้ชมของเราให้เพิ่มขึ้น แต่อย่าลืมว่าเราควรเลือกแบรนด์ที่มีกลุ่มเป้าหมายใกล้เคียงกับเราด้วย

3.บุคลิกภาพของแบรนด์ต้องชัดเจน 

หลายๆ คนอาจมองข้ามข้อนี้ไป แต่ขอบอกเลยว่าไม่มีไม่ได้! การที่จะทำให้ผู้คนรับรู้แบรนด์ของเรา แนะนำให้เน้นบุคลิกภาพของแบรนด์ทุกครั้งที่สร้างแคมเปญ รวมถึงรูปแบบของข้อความที่ใช้สื่อสารด้วย เพื่อที่จะได้ดึงดูดผู้บริโภคที่ชื่นชอบ หรือมีบุคลิกคล้ายกันกับเเบรนด์ สามารถเข้าถึงแบรนด์ได้มากขึ้น

ใครที่กำลังวางแผนสร้างแคมเปญอยู่ อย่าลืมเอาทริคดีๆ ไปใช้กันนะ! รับรองว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีแน่นอน ขอคอนเฟิร์ม 

 

สนับสนุนโดย.    ยูฟ่าสล็อตเว็บตรง

ตลาดคริปโต ทรุด 1ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

ตลาดคริปโต ทรุด ย้อนหลังกลับไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดคริปโตร่วงลงอย่างหนักหลักๆแล้วปัจจัยสำคัญก็คือการที่สภาพคล่องในตลาดหายไปจากมาตรการการใช้นโยบายทางการเงินที่ตึงตัวของทาง ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาผลที่ตามมาก็คือ

มูลค่าของตลาดคริปโตได้หายไปประมาณ 1 ล้านเหรียญสหรัฐหรือว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ นั่นหมายความว่าหายไปประมาณ 33 ล้านบาท จากระดับสูงสุดเลยทีเดียว   บิทคอยน์ เป็นหนึ่งในตระกูลคริปโตที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก 

ปรับตัวย่อลงมามากกว่าร้อยละ 50 จากระดับเหนือสุด 68,000 บาท  ดอลลาร์ที่ทำไว้ตอนเดือนพฤศจิกายนมาทำจุดต่ำสุดที่ 33500 ดอลลาร์ หรือต่ำกว่า 1.2 ล้านบาทต่อบิตคอยน์

ซึ่งการร่วงลงของบิทคอยน์ทำให้คริปโตในสกุลอื่นๆปรับตัวลงตามไปด้วยสาเหตุที่ตลาดคริปโตร่วงลงมายังหนักก็มาจากสภาพคล่องในตลาดที่หายไปหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐระบุชัดเจนว่าวางแผนจะลดทั้งงบบัญชีการซื้อพันธบัตรและขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงกว่าที่คาดเอาไว้ 

นอกจากนี้สะท้อนได้จากการที่นักลงทุนได้เทขายพันธบัตรออกมาดึงทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ของสหรัฐขึ้นไปยืนเหนือร้อยละ 1.9 ตลาดคาดการณ์กันว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยและการลดมาตรการกระตุ้นทางการเงินของสหรัฐ 

โดยมันจะเกิดผลทำให้สภาพคล่องไหลออกจากตลาดการเงิน แน่นอนรวมไปถึงตลาดสกุลเงินคริปโตและตลาดถูกแรงกดดันจากการควบคุมด้านกฎระเบียบต่างๆอย่างเช่นจีนสั่งห้ามทำกิจกรรมใดๆที่เกี่ยวกลับคริปโตทั้งหมด

นอกจากนี้ทางการสหรัฐดำเนินควบคุมตลาดดังกล่าวบางส่วนด้วยธนาคารกลางรัสเซียปลายสัปดาห์ที่แล้วเสนอให้มีการสั่งห้ามการใช้และการทำเหมืองแร่คริปโตในรัสเซีย

ซึ่งได้บอกว่าเงินดิจิตอลได้สร้างความเสี่ยงต่อเสถียรภาพและอธิปไตยทางการเงินในขณะที่รัสเซียเป็นตลาด 1 ใน 3 ที่ทำเหมืองบิตคอยน์ มากที่สุดในโลก

ดังนั้นตรวจสอบแล้วเมื่อเช้าวันนี้คริปโตอย่างบิตคอยน์ขยับบวกขึ้นมาได้ยืนอยู่ประมาณซัก 35,000 เหรียญต่อ 1 บิตคอยน์Ethan ก็บวกกับขึ้นมาได้เช่นกันแต่ก็ถือว่ายังห่างจุดที่เคยอยู่เยอะมากเช่นเดียวกันอย่างไรก็ตามแล้วในส่วนของหุ้นต่างๆนี้

โดยมีผลกระทบเกี่ยวกับหุ้นในทุกด้านในช่วงนี้และทำให้ผลการตลาดคริปโตนั้นได้ร่วงลงมาอย่างที่ไม่คาดคิดกันมาก่อนทั้งนี้อย่างไรก็ตามก็หวังว่าอยากจะให้สถานการณ์กลับมาดีขึ้น เพื่อที่จะกระตุ้นยอดในลาดหุ้นนั้นมันได้กลับมาดีขึ้นได้อีกครั้ง

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในตลาดหุ้นถือได้ว่าร่วงลงกว่าหนึ่งล้านล้านเหรียญสหรัฐกนเลยทีเดียวส่งผลกระตุ้นได้ถึงรัสเซียในตอนนี้ด้วยอีกเช่นเดียวกันในส่วนของตลาดหุ้นนี้

 

สนับสนุนโดย.    ufa slot เกมไหน แตกง่าย

สปป.ลาว เตรียมแพ็จเกจหนุนรถยนต์EV

สปป.ลาว เตรียมแพ็จเกจ ซึ่งวันนี้เราจะพาไปดูแพ็กเกจไม่ว่าจะเป็น สปป.ลาว หรือ ญี่ปุ่น เวลาที่เขาอยากจะส่งเสริมหรือว่าสนับสนุนให้มีการใช้รถพลังงานไฟฟ้าเขามีอะไรที่น่าสนใจกันต้องบอกว่านาทีนี้ถนนทุกสายมุ่งสู่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าก็ถือว่าเป็นวาระของประเทศและวาระระดับโลกเลย

เพราะทุกประเทศเห็นถึงความสำคัญในการดูแลสิ่งแวดล้อมนั่นเองก็ต้องมีการที่จะปรับเปลี่ยนในเชิงยุทธศาสตร์ด้วยเพราะถ้าหากว่าทางภาครัฐเองไม่ปักธงไปทางฝั่งของภาคเอกชนหรือแม้กระทั่งผู้บริโภคอย่างพวกเราก็คงยากเหมือนกันที่จะไปซื้อรถ EV หรือว่า รถยนต์พลังงานไฟฟ้า

นอกจากนี้มาดูตัวอย่างของสองประเทศที่ตอนนี้เขากำลังพยายามที่จะสร้างแรงจูงใจให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเริ่มจากฝั่งของ สปป.ลาว ในช่วง2ปีล่าสุดก็พยายามที่จะไปตั้งแท่นชาร์จตั้งสถานีจุดชาร์จไฟตามจุดต่างๆที่สำคัญๆใน สปป.ลาว แต่ปรากฎว่าก็ดูคล้ายกับหลายๆประเทศคล้ายๆกับบ้านเราด้วยที่จำนวนของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นก็จริง

แต่ก็ยังถือว่าไม่ได้แพร่หลายมากมายนักส่วนหนึ่งก็คล้ายๆกันแหละก็คจะคิดว่าสูงกว่ารถยนต์น้ำมันแล้วก็จุดชาร์จต่างๆถึงแม้ว่าจะเริ่มเพิ่มมากขึ้นแต่มันยังไม่มากเพียงพอตรงนี้แหล่ะที่ทำให้ทางฝั่งของ สปป.ลาว เขาได้มีการปรับยุทธศาสตร์แล้วก็พยายามที่จะมองรอบด้านว่าจะทำยังไงให้มันเกิดขึ้นได้ก็เข้าไปดูในเรื่องของภาษีตรงนี้แหละที่จะสร้างแรงจูงใจ

สำหรับภาษีเบื้องต้นเลยไปลดภาษีให้กับผู้นำเข้าเหลือร้อยละ 10 จากเดิมร้อยละ 20 ก็ลดไปครึ่งนึงแล้วก็มีการกำหนดโควต้ารถนำเข้ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าอันนี้สำคัญมากๆปี 2565 ถึงปี2568 ใน3 ปีนี้สัดส่วนจะอยู่ที่ 1/3 ของร้อยละ30แต่จุดที่สำคัญอยู่ที่ปี 2569 – 2573 ขยับขึ้นมาครึ่งนึงจริงแล้วตั้งไว้มากกว่าครึ่งนึงด้วย

แต่ว่าเบื้องต้นเขาได้ขีดเส้นไว้ประมาณครึ่งนึงก่อนแล้วถามว่าพอไปลดภาษีตรงนี้แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไรรายได้ของทางภาครัฐมันก็จะหายไปกต้องหาอะไรเข้ามาชดเชยเขาบอกว่าในเมื่อจะไปสนับสนุนรถยนต์EVCฉะนั้นจะไปชดเชยยังไงก็ไปขึ้นภาษีกับรถยนต์น้ำมันเช่นภาษีนำเข้าขยับขึ้นไปจากร้อยละ 30 – 35 อันนี้ก็แล้วแต่รุ่นแล้วแต่ยี่ห้อด้วยขยับขึ้นไปเป็นร้อยละ70เลยทีเดียว

นอกเหนือจากนี้ภาษีการใช้รถก็อยู่ที่ประมาณร้อยละ5บวกภาษีมูลค่าเพิ่มขึ้นไปอีกจากเดิมร้อยละ10เพิ่มเป็นเท่าตัวเป็นร้อยละ20คนที่จะซื้อรถยนต์น้ำมัมนอาจจะต้องคิดหนักกันแล้วนี่คือของทางฝั่ง สปป.ลาว ที่เขาได้กำหนดเอาไว้

 

สนับสนุนโดย.    ufabet เว็บไหนดี

ตลาดเสริมความงามของจีน คึกคัก ทำตลาดไทยคึกตาม

        ตลาดเสริมความงามของจีน      มีการสำรวจเกี่ยวกับเรื่องของการเสริมความงามในประเทศจีนพบว่าปัจจุบันนี้ผู้ชายจีนก็ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพและความงามของตนเองด้วยเช่นเดียวกันด้วยในขณะนี้จำนวนผู้ชายจีนที่หันมาสนใจเกี่ยวกับเรื่องของความงามของตนเองนั้นมีเพิ่มมากสูงขึ้นถึง 7.2 เท่าของผู้หญิง

          ทำให้ในขณะนี้ตลาดเสริมความงามของประเทศจีนนั้นค่อนข้างคึกคักมากเลยทีเดียวคณะกรรมเกี่ยวกับเรื่องของสถาบันความงามต่างๆของจีนนั้นกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากรวมถึงมีแนวโน้มว่าจะมีการพัฒนาการให้ดีขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อตอบรับความต้องการของผู้ชายจีนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง

              อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ชายจีนที่รักสวยรักงามเพิ่มมากขึ้นแต่กลับส่งผลดีกับตลาดเสริมความงามของประเทศไทยเช่นเดียวกันสำรวจข้อมูลย้อนหลังที่ผ่านมานั้นจะเห็นได้ว่าคนจีนนิยมที่จะทำการเสริมความงามนอกจากภายในประเทศของตนเองแล้วก็ยังออกไปใช้บริการของประเทศอื่นๆใกล้เคียงไม่ว่าจะเป็นประเทศเกาหลีใต้หรือญี่ปุ่นรวมถึงประเทศไทยด้วย

            ดังนั้นเมื่อตลาดเสริมความงามของจีนคึกคักก็ส่งผลทำให้ตลาดเสริมความงามในประเทศไทยคึกคักตามไปด้วยนั่นเองโดยประเทศไทยนั้นปัจจุบันนี้มีการวางเป้าหมายเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าจะมีการพัฒนาประเทศให้กลายเป็นศูนย์กลางบริการด้านสุขภาพเนื่องจากว่าคนไทยเองก็มีการรักสุขภาพไม่แคร์กับคนจีนเลยทีเดียว

           ซึ่งในขณะนี้ตลาดเสริมความงามในประเทศไทยนั้นได้มีการนำวงการแพทย์มารวมด้วยทำให้ผลิตภัณฑ์ของไทยนั้นได้มาตรฐานเป็นตามหลักสากลมากยิ่งขึ้นนั่นเอง อย่างไรก็ตามจากการสำรวจเพิ่มเติมในขณะนี้ก็คือผู้ชายจีนนั้นมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องผมร่วงกันมากขึ้นโดยเฉพาะชายจีนที่อยู่ในช่วงระหว่างวัยทำงานหรือวัยกลางคนและคนกลุ่มนี้ที่มีกำลังทรัพย์มากเพียงพอที่จะซื้อผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่จะเอามาใช้รักษาปัญหาโรคผมร่วง

            ดังนั้นหากประเทศไทยได้มีการนำสินค้าของไทยที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานในเรื่องของการปลูกผมหรือการรักษาปัญหาผมร่วงมีการขายออฟไลน์ขายผ่านทางเว็บไซต์จะมีลูกค้าจีนเป็นจำนวนมากสามารถสั่งซื้อสินค้าของไทยหรือนำสินค้าของไทยไปขายในประเทศจีนได้สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการได้เป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว

          อย่างไรก็ตามถ้าหากต้องการให้สินค้าของไทยนั้นได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวจีนที่เป็นผู้ชายก็ต้องมีการพัฒนาสินค้าของตนเองให้สามารถใช้งานได้จริงและเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและพยายามให้สินค้านั้นติดตลาดของจีนเป็นที่ยอมรับของคนจีนรับรองได้ว่าจะสามารถขายสินค้าในประเทศจีนได้อย่างยั่งยืนและยาวนานเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย.   ufa สล็อตแตกบ่อย

สหรัฐสอบธุรกิจคลาวด์ อาลีบาบา ห่วงความมั่นคง

ธุรกิจคลาวด์ อาลีบาบา วันนี้เราจะอยู่กับเรื่องของเงินเฟ้อแต่ไม่ใช่เงินเฟ้อของอเมริกา ถ้าไปดูคอนเสิร์ตของศัพท์อังกฤษกันบ้างดีกว่า  ซึ่งเราเห็นตัวเลขเงินเฟ้อขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีที่นี่มาดูเอาเกรดกันบ้าง 

เพราะว่าล่าสุดตัวเลขเงินเฟ้อของเขาขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปีเพราะเป็นเรื่องที่ยังคงอยู่ในวิสัยที่นักลงทุนจับตามองกันนะคะหลังจากพระราชอาณาจักรเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค CPI

 ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคพบว่าตัวเลขในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาทะยานขึ้นสูงสุดในรอบ 30 ปีแตะร้อยละ 5.4

เมื่อเทียบรายปีหรือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเลยนะตั้งแต่มีนาคมของปี 2535 แล้วก็เพิ่มมากกว่า CPI ในเดือนพฤศจิกายนด้วยนอกจากนี้และตัวเลขที่ใบงานออกมาเนี่ยก็สูงเกินคาด

จากผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์นะคะเขาไปสำรวจนักวิเคราะห์แล้วก็คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้ว่า CPI ของสหราชอาณาจักรหน้าจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5.2

เมื่อเทียบรายปีเท่านั้นการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้ออังกฤษเป็นผลมาจากราคาพลังงานแล้วก็ความต้องการของผู้บริโภคที่พุ่งสูงขึ้นรวมถึงปัญหาห่วงโซ่อุปทานในปัจจุบันจึงจะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสำหรับผู้บริโภคปรับตัวขึ้นอย่างต่อ

เนื่องจากสัญญานี้ก็ทำให้ตลาดคาดการณ์นะคะว่าอาจจะทำให้ธนาคารกลางของอังกฤษหรือว่า boe พิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้

หลังจากก่อนหน้านี้ถ้าจำกันได้ก็คือธนาคารกลางอังกฤษเป็นธนาคารกลางรายใหญ่แห่งแรกที่ปรับขึ้นต้นทุนการกู้ยืมก็คือปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้นเอง

นอกจากนี้เรามาดูกันต่อเป็นเรื่องราวระหว่างสหรัฐอเมริกากับบริษัทเทคโนโลยีของจีนกันบ้างค่ะก่อนหน้านี้ก็มีประเด็นก็มีความขัดแย้งกันมาเรื่อยๆ

ล่าสุดก็ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นอีกแล้วหลังจากที่ทางฝั่งของทางการสหรัฐก็เตรียมเข้าไปตรวจสอบระบบ Cloud ของบริษัทอาลีบาบา

ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ของจีนสำนักข่าวรอยเตอร์เป็นผู้เปิดเผยข้อมูลนี้เขาบอกรายละเอียดว่าการสืบสวน

ดังกล่าวจะเน้นหาวิธีการที่ Alibaba จัดเก็บข้อมูลของลูกค้าในสหรัฐรวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลแล้วก็ทรัพย์สินทางปัญญาด้วยแล้วรัฐบาลสหรัฐก็จะดูอีกด้วยว่ารัฐบาลจีนจะสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้หรือไม่ 

โดยเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทางรัฐบาลสหรัฐยังคงเป็นกังวลก็คือจีนมีโอกาสที่จะขัดขวางไม่ให้ผู้ใช้ในสหรัฐได้เข้าถึงข้อมูลของตนที่ได้จัดเก็บเอาไว้ในระบบ Cloud ของอาลีบาบามากน้อยแค่ไหน

ซึ่งตามรายงานข่าวระบุว่าหน่วยงานกำกับการดูแลของสหรัฐสามารถที่จะเลือกบังคับให้ Alibaba เดินมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงต่างๆที่เกิดขึ้นจากธุรกิจ Cloud ของบริษัทหรือห้ามชาวอเมริกันทั้งในแล้วก็ต่างประเทศใช้บริการดังกล่าวไปเลย

 

สนับสนุนโดย.   ufabet เว็บแม่